หลังการควบคุมตัว เยาวชนที่รวมกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์กีดขวางถ.วิภาวดี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ พ.ต.ท.สนอง แสงมณี รอง ผกก.หัวหน้าสถานี สน.วิภาวดี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พันธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สว.งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กว่า 30 นาย ร่วมกันนำกำลังปิดล้อมจับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนหลายร้อยคัน พ.ต.ท.สนอง ยังได้กล่าวว่าจากการสอบสวนเบื้องต้น กลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะรวมกลุ่มเพื่อการแข่งรถบนท้องถนน แต่มีจุดประสงค์เพียงแค่จะเดินทางไปทำกิจกรรมที่ จ.นครนายก เท่านั้น
หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารสำเนารถ ใบอนุญาตขับขี่ รวมถึงตรวจสภาพรถว่ามีการปรับแต่งหรือไม่ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถสร้างความเดือดร้อนรำคาญบนท้องถนน และหากพบว่าผู้ใดมีการนำรถที่แต่งเพื่อการแข่งขันจะดำเนินการตรวจยึดตามขั้นตอนต่อไป พร้อมทั้งให้คำแนะนำกลุ่มที่จะจัดกิจกรรมลักษณะเป็นคาราวาน ที่มีการรวมกลุ่มของรถจำนวนมากๆควรทำหนังสือยื่นให้ทางกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) หรือตำรวจจราจรเจ้าของท้องที่นั้นๆรับทราบก่อน เพื่อจะได้วางกำลังคอยอำนวยความสะดวกในการสัญจรบนท้องถนน และลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้การรวมตัวเพื่อจะเดินทางต้องเป็นไปตามกฎหมายและคำนึงถึงความปลอดภัยตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก เช่น ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ มีหมวกกันน็อค ไม่ขี่ในช่องทางด่วน แต่การรวมตัวครั้งนี้มีการรวมตัวกันจำนวนมากและเข้าไปใช้ในช่องทางด่วนโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
เบื้องต้นแจ้งข้อหาข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมทั้งยึดรถจักรยานยนต์ ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ถึงแม้จะไม่มีพฤติกรรมการแข่ง แต่ก็สามารถจะใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาดำเนินการได้ เพราะว่ามีการออกมารวมตัวกันตั้งแต่เวลา 05.00 น. ผู้ปกครองควรจะดูแลเด็ก ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องเรียกผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรมของเด็กก่อนจะทำบันทึกไว้ หากพบว่ามีการกระทำผิดในลักษณะนี้อีกก็จะดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป ส่วนบางรายไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก อุปกรณ์รถจักรยานยนต์ไม่ครบ รวมทั้งมีการดัดแปลงในลักษณะแต่งแข่ง ทั้งหมดก็สามารถดำเนินคดีได้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก และตามคำสั่งที่ 28/2558 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หากต้องการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ให้ทำเรื่องขออนุญาตไปยังงานจราจรของตำรวจท้องที่เสนอมายังผู้การจราจร แล้วก็เสนอมายัง ตร. ไม่ใช่มานัดรวมตัวแล้วไปแบบนี้ จากการตรวจสอบพบกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนกว่า 258 คัน พร้อมทั้งผู้ขับขี่และซ้อนท้าย ได้ทั้งหมดจำนวน 361 คน แบ่งเป็นชาย 227 คน และหญิง 31 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี รวมอยู่ด้วยจำนวน 59 คน ซึ่งต้องมีการดำเนินการจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยโทษของการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตามพ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43(8) จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน นายต่าย อายุ 47 พ่อของนายต๊ะ กับนายเป็ด อายุ 20 และ 24 ปี ซึ่งถูกจับกุมในครั้งนี้ เล่าว่า นายต๊ะและนายเป็ด ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรวมกลุ่มครั้งนี้แต่อย่างใด ปัจจุบันนายต๊ะและนายเป็ดมีงานสุรจิตทำ แต่เนื่องจากเมื่อช่วงเช้า ได้ขับรถมาเพื่อซื้ออะไหล่รถแต่ถูกจับกุมช่วงวัดเสมียนนารี ก่อนที่ตำรวจจะออกใบสั่งและคุมตัวเอาไว้นานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะถูกนำตัวมารวมเด็กแว๊นกลุ่มนี้ และอยากจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยแยกแยะการจับกุม ว่ามีการออกใบสั่งไปแล้ว ไม่ควรนำมารวมกลุ่มนี้ หากมีการส่งฟ้องต่อศาลจริงและพบว่านายต๊ะและนายเป็ดไม่ได้มีความผิดตามที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาก็พร้อมที่จะฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
พนิตา สืบสมุทร ภาพ-ข่าว