*รอบวัน:นายกฯปช.กตช.วันนี้/น้ำเติมเขื่อนสิริกิติ์สูงสุด/แพทย์ชนทบทวงถามผลสอบปลัดสธ./กินแคปซูลมะรุมเสี่ยงเป็นพิษแนะกินสด*

07 สิงหาคม 2558, 07:14น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30.



+++หลายจังหวัดผจญกับน้ำป่าทะลักท่วมหลังฝนตกติดต่อกันโดยเมื่อเช้าวันที่ 6 ส.ค. หลังฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วันทำให้น้ำป่าบนยอดดอยไหลทะลักเข้าท่วมบ้านห้วยเคียน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงรายและล้นไหลเข้าท่วมถนนพหลโยธินฝั่งขาขึ้น อ.แม่สาย บริเวณหน้าปั๊มคอสโม่ไปจนถึงหน้าสถานีวิทยุ 914 ต.แม่จัน อ.แม่จัน นอกจากนี้ น้ำจากต้นน้ำนางแลยังไหลเข้าท่วมไร่นา บ้านเรือน หมู่ 7 บ้านนางแลใน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย รวมทั้งทะลักเข้าท่วมโรงเรียนห้วยพลูสูงกว่า 1 เมตร ส่วนถนนพหลโยธิน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 ซม. และถนนทางเข้าบ้านปูนะ หมู่ 4 ต.เทอดไท อ.แม่ฟ้าหลวง เกิดดินสไลด์ถล่มลงมาทับถนนปิดเส้นทางการสัญจร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่อย่างเร่งด่วน



+++ส่วนจ.ตาก ซึ่งติดต่อกับประเทศพม่าที่กำลังน้ำท่วม ยังคงเปิดรับของบริจาคอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน โดยที่อาคารสำนักงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก อ.แม่สอด พบว่ามีผู้ร่วมบริจาคจำนวนมาก      ขณะที่แม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล มีผู้นำสิ่งของเป็นเครื่องอุปโภค - บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มร่วมบริจาค โดยทางมูลนิธิฯ จะนำของส่งมอบให้ไปบริจาคให้กับนายกรัฐมนตรีรัฐกะเหรี่ยง ที่เมืองผาอ่าง เร็วๆนี้



+++นายสุเทพ เลิศศรีมงคล ผอ.เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่าฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง บริเวณเหนือสิริกิติ์ แม่น้ำน่านจากที่เคยแห้งขอดล่าสุดระดับน้ำแม่น้ำน่านเหนือสูงจากเดิมกว่า 4 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อน สิริกิติ์ มีปริมาณเพิ่มสูงสุดตามไปด้วย ล่าสุดไหลเข้าเขื่อนวันละ 63 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งถือว่าเป็นมวลน้ำที่มากที่สุดในรอบ 6 เดือนและสามารถเริ่มเก็บกักน้ำได้มากถึงวันละ 52 ล้าน ลบ.ม. ยังคงปล่อยน้ำออกวันละ 11 ล้าน ลบ.ม. และสามารถรับน้ำได้อีก 6,149 ล้าน ลบ.ม.



ด้าน จ.หนองคาย - ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ล่าสุดในวันที่ 6ส.ค. อยู่ที่ 10.80 เมตร เพิ่มขึ้นจาก 160 ซม. เป็นสถิติสูงสุดในรอบปี และมีแนวโน้มสูงเพิ่มขึ้นอีก ขณะเดียวกันน้ำโขงเอ่อท่วมแปลง พืชผลทางการเกษตรตามริมฝั่งแม่น้ำโขง และน้ำยังท่วมบริเวณชั้นล่างของจุดชมวิวที่ท่าเรือหายโศก ซึ่งอยู่ในตัวเมืองหนองคาย



+++ด้านกรุงเทพมหานครประชุมหัวหน้าหน่วยงานของ กทม. นายกังวาฬ ดีสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักการระบายน้ำ ได้รายงานการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม  ว่า การขุดลอกคูคลองเพื่อเปิดทางน้ำไหลดำเนินการไปแล้ว 1,137 กิโลเมตร จาก เป้าหมาย 1,158 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 98 นอกจากนี้ยังได้จัดซื้อกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วมจำนวน 1.5 ล้านใบ เมื่อรวมกับกระสอบทรายที่เหลือในปี 2557 จำนวน 3.6 ล้านทำให้กทม.มีกระสอบทรายมากกว่า 5 ล้านใบ



ขณะที่สถานีสูบน้ำ มีเครื่องสูบน้ำจำนวน 833 เครื่องมีกำลังสูบ 1,717 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่อุโมงค์ระบายน้ำ 7 แห่ง มีความยาว 19 กิโลเมตร มีประสิทธิภาพระบายน้ำ 155.50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อจากของลาดพร้าวถึงแม่น้ำเจ้าพระยา มีความคืบหน้าแล้ว 40% ส่วนโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จะประกาศตัว ผู้รับจ้าง ภายในวันที่10 ส.ค.นี้



+++วันนี้ น่าติดตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ห้องประชุมกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน. 4 รอ.) ร่วมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นรองประธาน  รายงานข่าวแจ้งว่า ก.ต.ช.อาจหยิบยกกรณีการเยียวยา พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. มาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากมีอดีตนายตำรวจทำหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้ระงับการกำหนดตำแหน่งเพื่อเยียวยา พล.ต.ท.ศรีวราห์ ตามมติ ก.ตร. โดยอ้างว่าศาลปกครองกลางยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองว่าคดีถึงที่สุด



+++อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศทำหนังสือสอบถามความชัดเจนไปยังสำนักงานศาลปกครองกลางอีกครั้ง ว่าคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วหรือไม่ การเยียวยาตามที่ ก.ตร.มีมติก่อนนี้เป็นไปตามคำสั่งของศาลปกครองกลางหรือไม่ ส่งผลให้การดำเนินการเยียวยา พล.ต.ท.ศรีวราห์ยืดเวลาออกไป



+++เริ่มต้นเรียงลำดับการปฎิรูปประเทศ  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ว่า ขณะนี้คณะกรรมการแผนยุทธศาสตร์ชาติที่มี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้รวบรวมยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 11 ข้อ รัฐบาล 11 ข้อ และรวมอีก 37 ข้อของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาจัดกลุ่ม เรียงลำดับความสำคัญการปฏิรูปก่อนหลังไว้คร่าวๆ มีแผนทำควบคู่กับการจัดทำแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อให้สอดคล้องกัน ให้มีความชัดเจนห ลังรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้ ส่วนโรดแมปการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะประกาศใช้เมื่อใด ปีไหนก็ตาม ให้นับไปอีก 8-9 เดือนจะมีการเลือกตั้ง



+++ด้านการยกร่างรัฐธรรมนูญ  นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า กมธ.ยกร่างฯจะพิจารณาทบทวนประเด็นที่ค้างการพิจารณาและประเด็นที่สังคมเรียกร้องให้ทบทวนและปรับแก้ไขอีกครั้งในวันที่ 10-11 สิงหาคมนี้ ส่วนประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งมีการเรียกร้องให้เป็น ส.ว.แบบสรรหาทั้งหมดนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย ส่วนตัวมองว่าเมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้วไม่ควรรื้อแบบชนิดพลิกกลับทั้งหมด ฃ



+++นายเจษฎ์ โทณะวนิก กมธ.ยกร่างฯกล่าวถึงข้อเสนอของสมาชิก สปช.ที่เสนอให้มีการปฏิรูป 2 ปีก่อนเลือกตั้งว่า ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่าการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่วันยึดอำนาจของ คสช. ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้ว ถือเป็นการปฏิรูปปัญหาประเทศในปัจจุบันพร้อมๆ กับการวางแนวทางในอนาคต หากมีการยืดเวลาปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง จะสะท้อนให้เห็นว่าการปฏิรูปที่ผ่านมาไม่มีประสิทธิภาพจริง สิ่งที่ต้องให้ความสนใจคือการส่งไม้ต่อการปฏิรูปผ่านสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไปยังคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปประเทศและการสร้างความปรองดองในระยะยาวมากกว่า ว่าจะมีกลไกในการทำหน้าที่สานต่อสิ่งที่ต้องการปฏิรูปมาตั้งแต่ต้นให้มีประสิทธิภาพอย่างไร



+++นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 1 ปีเศษที่ผ่านมา สปช.ทำงานยังไม่เสร็จ และมีบางคนพยายามจะคว่ำรัฐธรรมนูญทิ้ง อยากถามว่า เงินเดือน สปช.เงินเดือนผู้ช่วย ที่ปรึกษา ค่าเดินทาง เบี้ยประชุม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นำใช้ไป น่าจะเป็นเงินเกือบพันล้านแล้ว ไม่เสียดายบ้างหรืออย่างไร เพราะถ้าคว่ำร่างรัฐธรรมนูญต้องเริ่มกันใหม่หมด คิดบ้างไหมว่าถ้าเงินใช้จ่ายกันไปเป็นเงินของครอบครัวท่านบ้างจะเสียดายหรือไม่ นี่เป็นเงินภาษีประชาชน พวก สปช.ที่จะคว่ำร่างทิ้ง ถ้าทำแบบนั้น ขอให้พวกท่านมีความละอายใจ คืนเงินเดือน เบี้ยประชุม เงินประจำตำแหน่ง เงินเดือนผู้ช่วย ที่ปรึกษา ค่าเดินทางคืนกลับคลัง



+++ส่วนกระบวนการถอดถอนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 248 คน ออกจากตำแหน่ง จากกรณีร่วมกันลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. โดยมิชอบ ที่ประชุมได้นัดประชุม สนช.เพื่อฟังการแถลงการณ์ปิดสำนวนด้วยวาจาในวันที่ 13 สิงหาคม และลงมติในวันที่ 14 สิงหาคม เวลา 10.00 น.



++++หลัง นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กลับไปทำงานตำแหน่งปลัดฯที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท มองว่า ในช่วงที่ นพ.ณรงค์ไม่อยู่ จะเห็นว่าการเดินหน้าของระบบสุขภาพ การทำงานในระบบของ สธ.เดินหน้าไปได้ด้วยดี รวมถึงเรื่องความขัดแย้งในสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็ดีขึ้น ซึ่งหาก นพ.ณรงค์กลับมาแล้วปฏิบัติตามข้อตกลง 3 ข้อที่ให้กับนายกรัฐมนตรีได้จริง ก็ไม่มีปัญหา แต่หลายฝ่ายลงความเห็นว่าไม่น่าจะทำได้ และหากทำไม่ได้จะเป็นปัญหาแน่นอน ส่วนกรณีที่ ชมรมยื่นเรื่องต่อ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ เรื่องการเบิกค่ารถประจำตำแหน่ง ขณะเดียวกันยังเบิกรถราชการมาใช้อีก เบื้องต้นทราบว่าผลการสืบข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว และพบว่าอาจมีมูลความผิดวินัยร้ายแรง ดังนั้น ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ชมรมจะเดินทางเข้าพบ นพ.รัชตะ เพื่อสอบถามถึงผลการสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวว่า จะมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงหรือไม่ เพราะหากไม่ดำเนินการก็จะถือว่าเป็นการละเว้นหน้าที่



++++วุฒิสภาสหรัฐ อเมริกาลงมติรับรองให้นายเกล็น ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมแล้ว โดยตำแหน่งดังกล่าวว่างลงเป็นเวลาเกือบ 10 เดือนแล้ว หลังจากที่นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนก่อนหน้านี้ พ้นตำแหน่งไปตั้งแต่เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว     นายเดวีส์ได้ทวีตข้อความในบัญชี ทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมระบุว่า "ดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ตั้งตารอที่จะได้เดินทางไปยังกรุงเทพฯ เมืองแห่งเทวดา" ด้านนายดับเบิลยู. แพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทวีตข้อความในบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวแสดงความยินดีต่อข่าวนี้กับนายเดวีส์เช่นเดียวกัน นายเดวีส์เคยเป็นผู้แทนพิเศษด้านนโยบายเกาหลีเหนือระหว่าง พ.ศ.2555-2557 และปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ระหว่างปี พ.ศ.2552-2555



++++กินมะรุมสกัดมะเร็ง ล่าสุดผศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ รองผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ และทีมวิจัย แถลงผลวิจัยโครงการศึกษาคุณสมบัติในการป้องกันและต้านภาวะการอักเสบของมะเร็งลำไส้ใหญ่ของฝักมะรุมต้ม ซึ่งสถาบันโภชนาการร่วมกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการวิจัย โดยการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ระยะนี้เกิดกระแสการบริโภคมะรุมใส่แคปซูลในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือรูปแบบสารสกัดมะรุมที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างกว้างขวางหลังการทดลองในหนูพบว่า มะรุมสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ที่มีผู้ป่วยมากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม  แต่ควรบริโภคในรูปแบบของอาหารจะเหมาะสมกว่าแบบยา เพราะไม่มีความเสี่ยง จำกัดด้วยปริมาณ เช่น แกงส้มมะรุม กินพออิ่ม ถ้าแคปซูลมะรุมกินวันละ 10 เม็ดก็ได้ เพราะถ้ากินมากจะเสี่ยงเป็นพิษต่อร่างกาย ตับต้องทำงานหนักเพื่อทำลายสารพิษ แต่ให้เพิ่มเมนูมะรุมในอาหาร มะรุมทำได้หลากหลายเมนูมากกว่าแกงส้ม แถมมีองค์ประกอบพืชผักสมุนไพรอื่นอยู่ด้วย

ข่าวทั้งหมด

X