สรุปข่าวรอบวัน 19.35 น.
+++สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2558 เพื่ออัญเชิญลงหนังสือวันแม่แห่งชาติ ปี 2558 ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ความว่า “ดินและน้ำ ลมและฟ้า ป่าและเขา รวมกันเข้าคือทรัพย์สินแผ่นดินแม่ ฝากลูกไทยรวมใจภักดิ์รักดูแล เพื่อมอบแก่หลานเหลนไทยไปชั่วกาล”
+++หลังพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้แถลงข่าวร่วมกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เกี่ยวกับผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน - จีน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีประเด็นหารือสำคัญๆ การเจรจาหาข้อยุติความขัดแย้งในข้อพิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งในฐานะที่ประเทศไทยทำหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-จีนมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งขณะนี้ครบวาระแล้ว ไทยได้มอบการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวต่อ ให้แก่สิงคโปร์ ซึ่ง ในงานแถลงข่าวดังกล่าว มีนักข่าวสอบถามว่า ในโอกาสครบรอบ 40 ความสัมพันธ์ไทย-จีน จะมีวิธีเพิ่มความร่วมมือให้ดีขึ้นอย่างไร โดยพลเอกธนะศักดิ์กล่าวว่า ในขณะนี้มีความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมสุด ๆ โดยเฉพาะการติดต่อใกล้ชิดกับนายหวังอี้ ซึ่งเป็นคนมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมและสุภาพมาก จากนั้นก็พูดต่อว่า “หากผมเป็นผู้หญิง คงจะตกหลุมรักนายหวังอี้ “If I were a woman I will fall in love with his excellency," ขณะที่นายหวังอี้เพียงแต่ยิ้มมุมปาก และไม่ได้กล่าวตอบกลับ หรือแสดงท่าทีใดๆ
+++แต่ในมุมมองนักการทูตอาวุโส กล่าวสะท้อนถึงความไม่เหมาะสม และมารยาททางการทูต แม้ว่าจะไม่เสียหาย แต่สถานการณ์ข้อพิพาทเป็นเรื่องตึงเครียด การที่ประเทศไทยจะสนิทกับจีนเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ แต่ไม่ควรที่จะแสดงออกในทางสาธารณะ ขณะที่การประชุมครั้งนี้ ยังไม่สามารถออกแถลงการณ์ ว่าด้วยการกำหนดหลักปฏิบัติร่วมกันในเรื่องนี้ได้ โดยฟิลิปปินส์และเวียดนามซึ่งมีความขัดแย้งเรื่องทะเลจีนใต้กับรัฐบาลจีน ต้องการให้มีการใช้ถ้อยคำที่ "แข็งกร้าว" เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันในการต่อต้านโครงการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียมของจีน แต่ข้อเรียกร้องของทั้งสองประเทศได้รับการคัดค้านจากบางประเทศในอาเซียนซึ่งเป็นพันธมิตรของจีน
+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงขณะนี้ยังพบว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ แต่ยังไม่เห็นสิ่งบอกเหตุ หรือสัญญาณที่จะกระทบภาพรวมของประเทศ หรือทำให้เกิดความวุ่นวาย แต่เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และอนาคตของประเทศเท่านั้น
+++ส่วนข้อเสนอให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ในอีก 2 ปี จะเป็นปัจจัยในการเคลื่อนไหวหรือไม่นั้น นายสุวพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีเพียงการโต้แย้ง และแสดงความคิดเห็นที่มีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญ หรือการปฏิรูปนั้น เป็นเรื่องของคนที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว ทั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีการชี้นำ
สำหรับข้อเสนอของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ให้รัฐบาลอยู่ต่อนั้น นายสุวพันธ์ กล่าวว่า จะอยู่ต่อได้อย่างไร เพราะในที่สุดรัฐบาล จะอยู่ได้หรือไม่ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตามโรดแมปอยู่แล้ว ถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านการลงประชามติก็เห็นชัดตามโรดแมปแล้วว่าจะมีการเลือกตั้ง ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น ม่ทราบ ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แต่เห็นว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเสนอว่าจะให้บ้านเมืองเดินหน้าไปอย่างไร ซึ่งสุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากของสปช. และเสียงของประชาชนในการทำประชามติ
+++++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 24/2558 เรื่องการแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมายขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติม „หัวหน้าคสช.สั่งห้ามใช้"อวนรุน-รั้วไซมาน-อ้วนตาเล็ก"ทำประมง ส่งผลกระทบต่อสมดุลทางทะเล ชี้ขัดคำสั่งจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1-5 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับได้นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 5 ส.ค.2558
+++มีรายงานว่า พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ(กมธ.) สนช. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า กมธ.มีมติให้ นายธีระศักดิ์ แสนวรางกูร ซึ่งที่ประชุมกมธ.มีมติแต่งตั้ง เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำกมธ. พ้นจากตำแหน่งหลังตกเป็นผู้ต้องหาพัวพันในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งแม้ว่าอัยการจะสั่งไม่ฟ้อง แต่กมธ.เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในกมธ.
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปิดที่ระดับ 1,430.58 จุด ลดลง 5.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,448.50 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยปี 2558 เป็นติดลบร้อยละ 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดตลาดที่ 20,664.44 จุด เพิ่มขึ้น 50.38 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 24,375.28 จุด ลดลง 138.88 จุด
+++ความคืบหน้า หลังญาตินายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ร้องกองปราบให้ตรวจสอบความผิดปกติ ของการโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 30 ปาก พบมีการปลอมแปลงเอกสารการทำธุรกรรมการโอนหุ้นของนายชูวงษ์จริง โดยเฉพาะข้อความจากการจำนำหุ้น เป็นการโอนหุ้น โดยมีการแก้ไขเฉพาะหัวเรื่องแต่ลายเซ็นเป็นของนายชูวงษ์จริง ขณะเดียวกันเตรียมเรียกสอบโบรกเกอร์ของนายชูวงษ์อีกครั้ง และรอผลตรวจสอบเอกสารจากกองพิสูจน์หลักฐานในบางส่วน ซึ่งมีการนัดส่งมอบให้ภายในวันศุกร์นี้ ก่อนจะนำเอกสารข้อมูลที่ได้มาทำการประมวลเพื่อเสนอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีมากกว่า 2 คน ได้ในสัปดาห์หน้า
+++ด้านครอบครัวของนายชูวงษ์ ได้ยื่นหนังสือถึงแพทยสภา เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เนื่องจากผลการตรวจของนิติเวชตำรวจไม่ได้ชี้ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิต ระบุเพียงว่าถูกของแข็งกระแทก จึงต้องการผลตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน พร้อมยืนยันไม่มีผู้พิพากษาเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งยังอยู่ในชั้นสอบสวน ไม่มีอำนาจใดก้าวล่วงได้
++++ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ ได้เดินทางมาที่ศาลฎีกา พร้อมยื่นหนังสือและเอกสารหลักฐานต่อนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรม และการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาอาวุโสท่านหนึ่ง เนื่องจากมีการตั้งข้อสงสัยว่า ให้คำปรึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่าไม่ได้กลัวการถูกออกหมายจับ เพราะความจริงที่ออกมาก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
+++บีบีซี รายงานอ้างสื่อของทางการซาอุดิอาระเบียว่ามีคนเสียชีวิต 17 ศพจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในมัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองอับฮะ ทางภาคใต้ของซาอุดิอาระเบีย ใกล้ชายแดนของเยเมน เหตุเกิดขณะมีการทำพิธีละหมาด ที่มัสยิดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของซาอุดิอาระเบียร่วมทำพิธีละหมาดเป็นประจำ เบื้องต้นย้งไม่ทราบชัดเจนว่าใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า หลังมีการค้นพบซากปีกเครื่องบินต้องสงสัยชิ้นหนึ่งที่เกาะเรอูนียง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในมหาสมุทรอินเดียเมื่อสัปดาห์ก่อนนายเลียว เตียง ไล รัฐมนตรีขนส่งมาเลเซียกล่าวว่าคณะผู้สอบสวนมาเลเซียที่เดินทางไปยังเกาะเรอูนียง ได้ค้นพบซากวัตถุเพิ่มเติม รวมถึงซากหน้าต่าง 1 บานและกระดาษฟอยล์อีกส่วนหนึ่ง แต่เขาระบุว่าเป็นซากเครื่องบิน แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นของเที่ยวบินเอมเอช 370 หรือไม่ บรรดาญาติผู้โดยสารชาวจีนของเที่ยวบิน 370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ที่สูญหาย พูดชัดเจนว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคือ ข้อมูลที่ชัดเจนแน่นอน ไม่ต้องการฟังข้อมูลที่ยืนยันว่ามีความเป็นไปได้ร้อยละ 99 ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย แถลงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญสรุปว่า เป็นซากชิ้นส่วนของเที่ยวบิน 370 ระบุว่าแม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเศร้าและเจ็บปวด แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ญาติผู้โดยสารได้ทราบความจริงที่แน่นอนในระดับหนึ่ง
++++เอ็นเอชเคระบุว่า จากการสำรวจข้อมูลความเห็นของแพทย์ประจำสมาคมเพื่อการวิจัยโรคสมองเสื่อมในประเทศจำนวน 1,600 คน เมื่อเดือนมิถุนายน พบว่า ร้อยละ 80 ของแพทย์ที่ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า คนไข้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อม แท้จริงแล้วไม่ได้ป่วยด้วยโรคดังกล่าว โดยร้อยละ 26 ของผู้ป่วยที่แพทย์วินิจฉัยผิด ป่วยเป็นโรคจิตซึมเศร้า และอีกร้อยละ 23 เป็นโรคในกลุ่มอาการสับสนฉับพลัน ส่วนอีกร้อยละ 14 มีอาการคล้ายเป็นโรคสมองเสื่อม อันเนื่องมาจากผลข้างเคียงของการใช้ยารักษาอาการโรคเรื้อรัง ดังนั้น สมาคมเพื่อการวิจัยโรคสมองเสื่อม จึงมีคำแนะนำให้แพทย์ สอบถามอาการของคนไข้อย่างละเอียด ตรวจวัดเลือด และสภาวะความคิดอ่าน รวมทั้งวินิจฉัยโดยใช้ภาพสแกนสมอง ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีประชากรที่กำลังทนทุกข์กับโรคสมองเสื่อมราว 4.6 ล้านคน คาดว่ายอดตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 7.3 ล้านคนภายในเวลา 10 ปี ทำให้ในกลุ่มผู้สูงอายุทุกๆ 5 คน จะมี 1 คนที่เป็นโรคสมองเสื่อม