+++ สภาพอากาศในช่วงนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ประกาศเตือนพื้นที่ใน ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวม 15 จังหวัด ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 5 - 9 สิงหาคม โดยภาคตะวันออกมี 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ส่วนในภาคใต้มีถึง 11 จังหวัด คือ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
+++พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศสำรวจและรายงานความเสียหายในพื้นที่ประสบอุทกภัยและดินโคลนถล่ม พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจราคาสินค้าและปริมาณราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ให้มีการขายสินค้าในราคาสูงเกินควร ป้องกันการกักตุนสินค้าและหากเกินการขาดแคลนสินค้ากระทรวงจะดำเนินการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป สั่งให้จัดธงฟ้าเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย5 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง บึงกาฬ และนครพนม
+++สถานการณ์การส่งออก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้จะประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์เพื่อพิจารณาการทบทวนเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 2558 ใหม่ คาดการณ์เป้าหมายการส่งออกใหม่จะปรับลดลงเหลือร้อยละ 0 แต่จะติดลบหรือไม่จะต้องหารืออีกครั้ง หลังจากได้รับข้อมูลการประเมินใหม่จากทูตพาณิชย์จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ร้อยละ 1.2 เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจโลก ยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดไว้ และราคาน้ำมันในตลาดโลกยังไม่ปรับตัวสูงขึ้น รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อประชาชน โดยคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติงบประมาณ 6,000 ล้านบาท ผ่านกระทรวงมหาดไทย โดยเพิ่มการจ้างงาน เพื่อให้มาตรการเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน และจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือ
+++นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยสมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้า เปิดเผยว่า กกร.มี มติเสนอให้รัฐบาลรื้อฟื้นคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก ที่มีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกฯที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน เพื่อผลักดันและเร่งรัดการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลังให้ได้ผลกว่าปัจจุบัน เนื่องจากคณะกรรมการมีหลายหน่วยงานเศรษฐกิจเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งดูแล หากภาครัฐเห็นด้วย คาดว่า จะเริ่มประชุมได้ภายใน 1-2 เดือนนี้
+++ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้การส่งออกของไทยจะมีแนวโน้มติดลบ แต่เชื่อว่า ยังมีรายได้จากทางอื่นเข้ามาเสริม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวปีนี้เติบโตถึงร้อยละ 53 ขณะเดียวกันการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐมีการเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะขณะนี้สามารถเบิกจ่ายงบได้แล้วกว่าร้อยละ 74 และเชื่อว่าก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2558 รัฐจะสามารถเบิกจ่ายได้ถึงร้อยละ 90
+++นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ เปิดเผยว่า ได้รายงานมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว โดยมีโครงการลงทุนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ 3-4 กระทรวง หรือประมาณ 20 หน่วยงาน เป็นวงเงิน 1 แสน50,000 ล้านบาท กระจายอยู่ในโครงการท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเบิกจ่ายเพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ถือเป็น การดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้อง การให้เกิดการจ้างงานและช่วยเหลือเกษตรในท้องถิ่นให้ได้ 10 ล้านคน
+++มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน เป็นมาตรการที่มีอยู่แล้ว แต่ได้จัดหมวดหมู่ให้เห็นภาพชัดเจนว่ามีเงินแค่ไหน และมีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว และการประชุม ครม.ล่าสุด ก็ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอของบกลางจำนวน 6,500 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน รวมทั้งยังคาดว่าจะมีเงินช่วยเหลือน้ำท่วมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะจังหวัดที่ฝนยังไม่ตกเช่น สุโขทัย และ สุพรรณบุรี ก็จะเร่งอัดฉีดเงิน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งไปก่อน ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย
ก่อนหน้านี้ นายสมหมาย ประเมินว่าทั้ง 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้มีวงเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจโตได้มากกว่าร้อยละ 3 คาดว่าจะถึง ร้อยละ3.2
+++วันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ว่าจะลดหรือคงดอกเบี้ยนโยบายที่ปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 1.5 โดยจะมีการแถลงเวลา 14.00น.ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
+++คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จัดเวทีสัมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหอการค้าต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางแห้ปัญหาทุจริตภายใต้ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตระยะ2
+++กรณีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศไปชี้แจงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับผลรายงานการประเมินสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทย เพื่อให้พ้นจากการจัดลำดับเทียร์ 3 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวว่า ชี้แจงการทำงานของไทยในภาพรวม เล่าข้อเท็จจริงว่าไทยแก้ไขปัญหาส่วนใดบ้างให้สหรัฐฯฟัง เช่น เรื่องการปรับโครงสร้างการแก้ไขปัญหา การออกกฎหมาย มาตรการในการจับกุมผู้ค้ามนุษย์
+++ความคืบหน้าการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต และประเด็นการโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ วันนี้ เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( ผบ.ตร.) เป็นประธานในการประชุมร่วมระหว่าง บก.ป. กับ บช.น. เพื่อวางแนวทางและนำหลักฐานที่แต่ละฝ่ายรวบรวมหารายละเอียดที่ยังเป็นที่สงสัย โดยยังไม่สามารถสรุปสำนวนการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
+++ส่วนที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ออกมาแสดงหลักฐานถึงการคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขึ้นรถของนายชูวงษ์นั้นไม่ใช่หลักฐานที่เกิดในวันเกิดเหตุ เป็นเพียงการปฏิบัติตามปกติวิสัยเท่านั้นแต่ก็สามารถนำมาประกอบข้อสันนิษฐานได้ ซึ่งก็จะต้องรอการสืบสวนสอบสวนต่อไป เช่นเดียวกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนเชิญเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ชุดคลี่คลายคดียังตรวจสอบพบว่า พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รู้จักและติดต่อพูดคุยกับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล และ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล บ่อยครั้ง ต่างจากนายชูวงษ์ ที่ไม่พบความเชื่อมโยงใด ๆ ในส่วนของการติดต่อสองสาวคนสนิท ซึ่งประเด็นนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ให้การกับพนักงานสอบสวนว่าเป็นเพราะนายชูวงษ์ให้ตัวเองเป็นผู้ติดต่อ น.ส.อุรชา และน.ส.กัญฐณา ให้แทน ชุดคลี่คลายคดีจึงกำลังหาพยานหลักฐานความสัมพันธ์ที่แน่ชัด