*รอบวัน:กปน.ระวังน้ำทะเลหนุนสูงช่วงวันพระ/วิปสปช.กำหนดคำถามทำประชามติ/คาเธ่ย์ แปซิฟิก จอดฉุกเฉิน*

30 กรกฎาคม 2558, 18:10น.


+++สถานการณ์น้ำ นายเชาวรินทร์ กิ่งแก้ว รองผู้ว่าการการประปานครหลวง(กปน. )ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์น้ำและคุณภาพน้ำ แจ้งว่า แม้ว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังในช่วงวันพระ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเลจะหนุนสูงกว่าปกติ ส่งผลให้น้ำประปาในช่วงวันพระมีรสชาติเปลี่ยนไปจากเดิมบ้างในบางช่วงเวลาโดยเฉพาะช่วงน้ำขึ้น แต่คุณภาพน้ำประปาในด้านอื่น ๆ ยังได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) ทุกประการ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เปิดเมื่อใช้ ปิดเมื่อไม่จำเป็น



+++นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 4 เขื่อนที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มเจ้าพระยา ว่า แม้จะมีฝนตกลงมาหลายพื้นที่แต่เขื่อนภูมิพล มีน้ำใช้การได้ 169 ล้านลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 338 ล้านลบ.ม. เขื่อนแควน้อย 97 ล้านลบ.ม. และเขื่อนป่าสักฯ 34 ล้านลบ.ม.ยังมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันเพียง 638 ล้านลบ.ม.โดยมีน้ำไหลลงอ่างรวมกัน 54.19 ล้านลบ.ม. ขณะนี้น้ำในอ่างยังค่อนข้างน้อย โดยจะเน้นเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุดก่อนจะหมดฝนของปีนี้ ส่วนในพื้นที่รับน้ำฝนตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ลำคลอง หนองบึง และแก้มลิงต่างๆ จะเร่งขุดลอกให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามแผน ทั้ง 27 โครงการในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อรองรับน้ำฝนที่จะตกตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ เก็บตุนน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้งหน้า



+++ปัจจุบันยังคงการใช้น้ำจากเขื่อนวันละ 19.10 ล้านลบ.ม.แบ่งเป็นเพื่อการอุปโภคบริโภค 5ล้านลบ.ม. ช่วยเหลือพื้นที่ข้าวตั้งท้องออกรวง 6 ล้านลบ.ม. และรักษาระบบนิเวศไล่น้ำเค็ม 8 ล้านลบ.ม. ในช่วงปลายเดือนนี้ ที่น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกรอบ กรมชลประทาน จะพยายามใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่เข้าไปเสริมการช่วยเหลือเกษตรกรให้มากที่สุด และขอความมือจากทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต



+++ด้านสำนักระบายน้ำ กทม.รายงานสถานการณ์ความเค็มของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดวัดค่าความเค็มที่ท่าน้ำนนทบุรี 3.4 กรัม(เกลือต่อลิตร) ที่ปากน้ำสำแล 0.46 กรัม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปานครหลวง เกณฑ์เฝ้าระวังไม่ให้ความเค็มเกิน 0.25 กรัม สำหรับน้ำจืดผลิตประปา



+++กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ช่วงนี้ร่องมรสุมพาดผ่านจากพายุดีเปรสชั่นบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน และประเทศพม่า เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยตอนบน  ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 1- 5 ส.ค. พายุดีเปรสชั่นบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบนจะเคลื่อนไปปกคลุมประเทศอินเดียและมีกำลังอ่อนลง ส่วนร่องมรสุมจะยังคงพาดผ่านประเทศพม่า และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และด้านตะวันตกของภาคกลาง ยังคงมีฝนตกได้ต่อเนื่องในระยะนี้ นอกจากนี้ เตือนประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย



+++การให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยที่ตกค้างอยู่ที่เกาะอัมบน และเกาะอื่นๆ ในอินโดนีเซีย นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ช่วยเหลือส่งตัวลูกเรือประมงไทยที่ตกค้างอยู่ที่เกาะอัมบนและเกาะอื่นๆ ในอินโดนีเซีย กลับไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 จนถึงวันนี้ 30 กรกฎาคม 2558 ได้ส่งตัวลูกเรือประมงกลับไทยแล้ว 1,244 คน และได้ออกหนังสือรับรองสัญชาติ (Certificate of Identity – C.I.) ประมาณ 150 คน  อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อส่งตัวกลับ สำหรับลูกเรือที่กลับมาแล้ว กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้ง หน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านของการเยียวยา และการสอบสวนหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์



+++นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) เปิดเผยว่า ในวันที่6 ส.ค.นี้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. นัดประชุมวิปสปช. เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการหารือของสปช. ต่อประเด็นการกำหนดคำถามจำนวน 1 คำถาม ประกอบกับการทำประชามติร่างรัฐธรมนูญฉบับใหม่ ตามที่รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้สิทธิสปช. สามารถตั้งคำถามเพื่อนำไปทำประชามติได้ คาดว่า หลังจากงานส่งมอบพิมพ์เขียวการปฏิรูปประเทศในวันที่ 13 ส.ค.แล้ว สปช.จะมีการนัดประชุมเพื่อหามติร่วมกันว่าสปช. จะร่วมส่งคำถามเพื่อนำไปสู่การทำประชามติหรือไม่ ซึ่งหากที่ประชุมเห็นชอบด้วย จะมีการนัดประชุมอีกครั้ง คาดว่าจะเป็นวันเดียวกันกับที่มีการลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่งให้สปช.พิจารณา เพื่อให้เสนอคำถามและให้สมาชิก สปช. ลงมติตัดสิน



+++นายไพบูลย์ นิติตะวัน กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึง ความคืบหน้าการร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้เข้าสู้ช่วงโค้งสุดท้ายของการร่างรัฐธรรมนูญแล้ว เราได้ร่างรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของแต่ละฝ่าย แต่คงไม่ได้ตามที่ขอมาทั้งหมด เพราะต้องมองภาพรวมให้ครอบคลุม จะร่างตามใจใครไม่ได้และทำดีที่สุดแล้ว ส่วนภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ถึงกับพอใจทั้งหมดแต่ก็รับได้ สุดท้ายเชื่อว่าหากสปช.มองโดยไม่ใช้อคติ ร่างรัฐธรรมนูญนี้จะผ่านการโหวตได้ เพื่อส่งต่อให้ประชาชนตัดสินด้วยการทำประชามติ



+++นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึง การปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ว่า ส่วนตัวยืนยันหลักการนี้มาตั้งแต่แรกที่เข้ามาทำงาน การมีสปช.ต้องมีการปฏิรูป เพื่อแก้ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและด้านอื่น ๆ การเลือกตั้งเป็นเรื่องของการเมือง หากไม่สามารถปฏิรูปให้สำเร็จก่อน ก็จะเกิดความแตกแยกเหมือนก่อนหน้านี้อีก และควรเดินไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาล คือ เดินตามโรดแม๊พที่ได้กำหนดไว้



+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ว่าบริษัท รอยัล ดัชท์ เชลล์ บริษัทด้านพลังงานข้ามชาติรายใหญ่ระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเนเธอร์แลนด์ ออกแถลงการณ์เรื่องการเตรียมเลิกจ้างพนักงาน 6,500 คน และพนักงานสัญญาจ้างอีกจำนวนหนึ่งภายในปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายควบคุมงบประมาณของบริษัท ที่รวมถึงการระงับโครงการสำรวจน้ำมันของแท่นขุดเจาะหลายแห่ง เป็นผลมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงมีความผันผวน ก่อนหน้านี้ไม่นาน เชลล์ประกาศผลกำไรจากการดำเนินงานประจำไตรมาสที่สองของปีนี้ อยู่ที่ 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 118,320 ล้านบาท ) ลดลงมากถึงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว



+++ญาติของลูกเรือและผู้โดยสารบนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370 รู้สึกสับสนว้าวุ่นใจหลังจากทราบข่าวพบซากเครื่องบินที่อาจเป็นเครื่องบินลำดังกล่าวที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมปีก่อน มีการเปิดเผยความรู้สึกว่า ใจหนึ่งยังมีความหวัง อีกใจอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหากซากขนาด 2 เมตรที่พบบนเกาะลาเรอูนียง ในมหาสมุทรอินเดียเป็นของเครื่องบินโบอิง 777 เที่ยวบิน MH370 จริง ก็จะเป็นเบาะแสให้สืบต่อไปว่าเครื่องบินและคนบนเครื่องอยู่ที่ไหน



+++เครื่องบินของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคเที่ยวบินจากฮ่องกงไปยังนครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ ลงจอดฉุกเฉินที่ฐานทัพอากาศกองทัพสหรัฐฯในรัฐอะแลสกาเมื่อบ่ายวันพุธ หลังจากพบควันในเครื่องบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิคแถลงเมื่อค่ำวันพุธว่า เที่ยวบิน CX884 เปลี่ยนทิศทางไปลงจอดที่ท่าอากาศยานกองทัพสหรัฐฯบนหมู่เกาะอะลูเชียน ผู้โดยสาร 276 คน และลูกเรือ 18 คน ปลอดภัย ล่าสุดทั้งหมดได้เดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังนครลอสแอนเจลิสที่เป็นจุดหมายเดิมแล้ว คาเธ่ย์ แปซิฟิค แถลงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพัดลมทำความเย็นใต้พื้นห้องโดยสารใกล้กับห้องเก็บสัมภาระไม่ทำงาน จึงทำให้เกิดควันขึ้นในเครื่องบิน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้โดยสาร ด้านผู้อำนวยการด้านบริการของสายการบินระบุว่า กัปตันตัดสินใจถูกแล้วที่เปลี่ยนทิศทางไปลงจอดฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย



+++นายลักษมี ธากัล โฆษกกระทรวงความมั่นคงภายในของเนปาลกล่าวว่า มีคนเสียชีวิต 20 ศพและสูญหายหลายคนหลังฝนตกหนักเมื่อเที่ยงคืนวานนี้ ทำให้ดินถล่มทับบ้านเรือน 2 หมู่บ้านในบริเวณเชิงเขาใกล้เมืองโภครา บ้านเรือนเสียหาย 22 หลัง คาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีก สำหรับเมืองโภคราอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตกราว 125 กิโลเมตร



+++ด้านนายกฤษณะ บาฮาดูร์ ราอุต นายอำเภอเมืองโภครา กล่าวว่า ทีมกู้ภัยอยู่ระหว่างสำรวจบ้านเรือนและกู้ภัยบ้านเรือนที่ถูกดินถล่มทับ จะมีทีมกู้ภัยไปสมทบอีกหลายชุด พร้อมทั้งเก็บกู้ทางด่วนระหว่างเมืองโภครากับเมืองบักลุงให้ใช้สัญจรได้ตามปกติ หลังถูกดินถล่มขวางทาง



+++นักโทษคดีวางระเบิดโจมตีนครมุมไบ ของอินเดีย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 257 ศพ เมื่อปี 2536 ถูกประหารชีวิตแล้วเมื่อเช้านี้ โดยนายยาคุบ อับดุล ราซัค เมมอน วัย 53 ปี นักโทษเพียงรายเดียว ที่ถูกศาลอินเดียตัดสินประหารชีวิตในคดีวางระเบิดโจมตีนครมุมไบ ด้วยการแขวนคอในเรือนจำทางภาคตะวันตกของอินเดีย ที่ถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี 2537 การประหารชีวิต มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีอินเดียปฏิเสธไม่รับคำร้องอุทธรณ์ขออภัยโทษในนาทีสุดท้าย



CR:แฟ้มภาพ



 





 

ข่าวทั้งหมด

X