หลังการช่วยเหลือลูกเรือประมงชาวไทย จำนวน69คน ที่ถูกหลอกไปทำงานในประเทศอินโดนีเซีย ก่อนที่ทั้งหมดจะได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการประสานนำตัวส่งกลับมาถึงประเทศไทยช่วงค่ำเมื่อคืนนี้ จากการพูดคุยกับ1ในแรงงานที่ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศอินโดนีเซีย นายอ้น ทะกึ่งผล ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า ถูกหลอกไปทำงานในเรือประมงที่อินโดนีเซีย นานกว่า 1ปี4เดือน จนได้รับความช่วยเหลือกลับมาที่ประเทศไทย ตอนที่ถูกหลอกไปเดินทางมาจากบ้านเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ และเมื่อนั่งรถไฟมาถึงหัวลำโพง ก็มีบุคคลเข้ามาติดต่อว่าสนใจทำงานคัดแยกปลาในเรือหรือไม่ จึงตัดสินใจไปทำงาน โดยช่วงแรกถูกพาไปอยู่ที่ห้องเล็กๆโดยไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน และเจ้าของเรือก็พาไปถ่ายรูปทำเอกสาร โดยบอกว่าเรือที่จะไป ผ่านการอนุญาตจากทางการอินโดนีเซียแล้ว โดยจะได้ค่าตอบแทนคนละ 4,500บาทต่อเดือน หลังจากนั้นก็มีการทำเอกสารประจำเรือให้ โดยที่ขณะนั้นตัวเองไม่ได้เก็บเอกสารนั้นไว้ เจ้าของเรือเป็นคนเก็บไว้ทั้งหมด หลังจากนั้นก็ถูกนำลงเรือไป และต้องทำงานเกือบตลอด 24ชั่วโมงต่อวัน บางทีฝนตกก็ไม่ได้พัก และถ้าเหนื่อยไม่ยอมทำงานก็จะถูกทุบตี ซึ่งเพื่อนบางคนที่ล้มป่วยจนเสียชีวิต ก็ถูกโยกศพทิ้งลงกลางทะเล จนมีเรือทหารของอินโดนีเซียมาพบจึงช่วยเหลือนำขึ้นฝั่ง และถูกนำตัวไปสอบสวน ก่อนถูกประสานและนำตัวกลับมาที่ประเทศไทย
ทั้งนี้จากการพูดคุยกับแรงงานที่ถูกหลอกไปในชุดนี้ ก็ต้องการที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม ขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวคนที่อยู่ในขบวนการค้ามนุษย์มาลงโทษให้ได้ เนื่องจากพวกเข้าสงสารเพื่อนที่ล้มป่วยและเสียชีวิตลงบนเรือ และไม่มีสิทธิเรียกร้องขอความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกเรือประมงที่ถูกหลอกไป ที่มาพบที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี วันนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 38คน โดยอีก30คน ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศรับไปดูแล และ1คนมีคดีลักทรัพย์ติดตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปดำเนินคดี แต่อย่างไรก็ตาม 69คนนี้เป็นกลุ่มที่ถูกหลอกไปทำงานในเรือประมงที่เป็นเจ้าของคนเดียวกัน แต่บางคนถูกแยกออกไปอยู่เรือคนละลำ
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด