หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ขยายเวลาโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ถึงเดือนสิงหาคม 2558 หลังจากครม. มีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าวเมื่อต้นเดือนมกราคม 2558 และได้กำหนดระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่กุมภาพันธ์-มิถุนายน 2558 งบประมาณตำบลละ 1 ล้านบาท โดยให้ชุมชนคิดโครงการขึ้นเอง มีที่ปรึกษา คือ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งสิ้นกว่า 6 พันโครงการ ดำเนินเสร็จเรียบร้อยแล้วกว่า 5 พันโครงการ มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วกว่า 2,700 ล้านบาท ที่เหลือยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น จึงให้คณะกรรมการบริหารจังหวัดและอำเภอลงไปเร่งรัด และจะต้องมีการรายงานผลต่อกระทรวงที่ดูแลด้วย
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ มรว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กระทรวงการคมนาคมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำหนดแนวทางการพัฒนาท่าเทียบเรือยอร์ชและเรือครุ้ยซ์ ให้สามารถรองรับเรือมากกว่า 5 พันลำ ให้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางของประเทศเพื่อนบ้าน โดยมอบหมายให้ไปตรวจสอบและศึกษาข้อมูลท่าเทียบเรือยอร์ชที่มีอยู่ 11 แห่ง ซึ่งแบ่งเป็นฝั่งอันดามัน 6 แห่ง และฝั่งตะวันออก 5 แห่ง ซึ่งขณะนี้ยังมีศักยภาพไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยกรมเจ้าท่าได้มีการศึกษาและพบว่าประเทศไทยสามารถพัฒนาท่าเรือ และสร้างท่าเรือได้อีก 33 พื้นที่ทั่วประเทศ และได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็น ทดสอบการตลาด รวบรวมข้อมูล และรับฟังเสียงตอบรับจากในพื้นที่ว่าจะเห็นดเวยหรือไม่กลับโครงการดังกล่าว รวมทั้งยังได้มีการศึกษาเพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อกฎหมายด้วย
ปัจจุบันประเทศไทยมีท่าเรือ 3 แห่ง คือ กรุงเทพฯ แหลมฉบัง และภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าเรือเทียบสินค้าทั้งสิ้น เวลามีเรือนักท่องเที่ยวมาเทียบฝั่ง ต้องเทียบฝั่งห่างจากท่าเรือออกไป และต้องลงเรือเล็กเข้ามาที่ฝั่ง ไม่สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ กรมธนารักษ์จะต้องประสานงานกับผู้ที่เป็นสัมปทานเก่า ว่ามีศักยภาพพอดีจะพัฒนาได้หรือไม่ หรืออาจจะต้องพิจารณาหาสัมปทานใหม่ รวมทั้งพิจารณาด้วยว่าจะเป็นการพัฒนาแบบลงทุนร่วมกันหรือไม่ โดยพบพื้นที่อีก 2 แห่ง ที่น่าสนใจในการสร้างท่าเรือครุ้ยซ์ คือ กระบี่และเกาะสมุย นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้ศึกษาเรื่องดังกล่าวให้เสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ว่าพื้นที่ไหนจะเหมาะสมมากกว่ากัน โดยจะต้องพิจารณาจากความเหมาะสม ทั้งเรื่องของสนามบิน ด่านตรวจคนเข้าเมือง และจะต้องเชื่อมโยงกับท่าเรือในต่างประเทศด้วย