ในวันพรุ่งนี้ เวลา 06.00 น. พระสุเทพ ปภากโร จะลาสิกขาที่วัดไตรธรรมรราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่โดยมีพระธรรมวิมลโมฬี เจ้าคณะภาค 16 เป็นเจ้าอาวาสวัดและเป็นพระอุปัชฌาย์ในการบวช เป็นทำผู้พิธีในการลาสิกขา พระสุเทพ กล่าวว่า จากที่ได้บวชมาตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2557 มาจนถึงวันนี้รวมเป็นระยะเวลา 1 ปี 12 วัน รับกิจนิมนต์ไปได้ครบทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ หลังจากที่ลาสิกลาแล้วก็จะอยู่ทำบุญตักบาตร เลี้ยงพระเป็นเวลา 3 วันในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีก่อน และในวันที่ 30 ก.ค.ก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเปิดแถลงข่าวร่วมกับกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ถึงอนาคตว่าจะทำอะไรบ้าง ในเวลาประมาณ 11.00 น.ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ย่านราชประสงค์
สำหรับมูลนิธิฯจะเป็นส่วนหนึ่งของสภาขับเคลื่อนฯ ได้หรือไม่ พระสุเทพกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของภาคประชาชน แต่แนวทางของมูลนิธิฯ จะเน้นผลักดันในเรื่องการปฏิรูปประเทศ ส่วนทางราชการจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ อะไรที่สนับสนุนได้ก็สนับสนุน แต่หากมีการเชิญคนของมูลนิธิฯ เข้าไปเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อน พระสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ยินดีทั้งนั้นยกเว้นตัวเอง เพราะประกาศไว้ว่า หลังการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองแล้วเราคงไม่ไปรับตำแหน่งใดๆ และเรื่องของมูลนิธิฯ จะไม่เกี่ยวกับกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนแกนนำในมูลนิธิฯที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ใครจะไปไหนก็เป็นสิทธิแต่ละคน กับสภาขับเคลื่อนฯเอง มูลนิธิฯไม่เคยต่อรองว่าจะต้องมีคนของมูลนิธิฯ เข้าไปอยู่ และไม่เคยคิด
สำหรับการปรับ ครม.ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พระสุเทพกล่าวว่า การจะปรับ ครม.ในเวลานี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาปกติ ทางพระมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนไปได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ยึดติดไม่ได้ ส่วนที่จะไม่มีอดีตนักการเมืองเข้าร่วมใน ครม.ชุดใหม่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก พระสุเทพ สนับสนุนคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ทุกฝ่ายควรหยุดทะเลาะกันแล้วมองไปข้างหน้านั้น พระสุเทพกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว เพราะถ้ามัวทะเลาะกันแล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร ต้องหยุดกันได้แล้ว
ภาพจาก FB:Suthep Thaugsubon