นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการส่งออกเดือนมิถุนายน 2558 มีมูลค่า 18,162 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -7.87 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน (YoY) และระยะ 6 เดือน (ม.ค. - มิ.ย. 58) มีมูลค่า 106,856 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -4.84 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (AoA)
ขณะที่การนำเข้าเดือนมิถุนายน 2558 มีมูลค่า 18,012 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -0.21 (YoY) และระยะ 6 เดือน (ม.ค. - มิ.ย. 58) มีมูลค่า 103,383 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -7.91 (AoA) ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิถุนายน 2558 เกินดุล 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ระยะ 6 เดือน (ม.ค. - มิ.ย. 58) เกินดุล 3,473 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบให้การส่งออกของไทยต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2558 เป็นปัจจัยภายนอกที่ได้แก่ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลักในปัจจุบันที่ชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ส่งผลให้การนำเข้าของเกือบทุกประเทศทั่วโลกยังคงหดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้าของประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ ญี่ปุ่น (-21.2%) จีน (-21.0%) ฝรั่งเศส (-19.2%) เกาหลีใต้ (-16.0%) สหราชอาณาจักร (-8.6%) สหรัฐฯ (-3.9%)
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงชะลอตัวลง โดยในเดือนมิถุนายน 2558 ลดลงถึงร้อยละ -42.8 (YoY) ส่งผลกระทบต่อมูลค่าส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก แต่อย่างไรก็ดี ปริมาณการส่งออกน้ำมันยังคงขยายตัวสูงถึงร้อยละ 28.5 (YoY)
ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกปรับตัวลดลงมาก ทำให้มูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรลดลง โดยเฉพาะยางพาราและน้ำตาลทราย ในขณะที่ปริมาณการส่งออกยังคงขยายตัวร้อยละ 22.3 และ 6.4 (YoY) ตามลำดับ
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนยังส่งผลต่อราคาส่งออกสินค้าไทยและราคาสินค้าสำคัญในตลาดโลก โดยค่าเงินบาทนับตั้งแต่ต้นปี 2558 มีมีทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับคู่ค้าคู่แข่งเนื่องจากหลายประเทศมีการใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เวลานี้ค่าเงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าลงซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมภาคการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรพื้นฐานจะมีความสามารถในการแข่งขันด้านราคามากขึ้น
และปัจจัยสุดท้ายคือการหดตัวของการส่งออกสินค้ากลุ่มรถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว เนื่องจากอยู่ในช่วงการเปลี่ยนรุ่นรถกระบะ ขณะที่การส่งออกรถยนต์นั่ง และส่วนประกอบรถยนต์ยังคงขยายตัว คาดว่าการส่งออกสินค้ากลุ่มรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ จะกลับมาขยายตัวได้ดีในช่วงไตรมาสที่ 3 – 4ของปี 2558 โดยอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ เริ่มมีสัญญาณการขยายตัวที่ดีขึ้นจากการที่มูลค่านำเข้าสินค้าส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ที่กลับมาขยายตัวในเดือนมิถุนายน 2558 ที่ร้อยละ 6.6 (YoY)
ทั้งนี้ อัตราหดตัวของมูลค่าส่งออกของไทยยังจัดว่าอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยสถิติส่งออกล่าสุดถึงเดือนพฤษภาคม 2558 เกือบทุกประเทศทั่วโลกมีอัตราการขยายตัวของการส่งออกติดลบมากกว่าไทย อาทิ ออสเตรเลีย (-21.9%) ฝรั่งเศส (-16.8%) สิงคโปร์ (-13.3%) มาเลเซีย (-13.1%) ญี่ปุ่น (-7.8%) เกาหลีใต้ (-5.7%) สหรัฐฯ (-5.2%)
..