ในการลงพื้นที่ เพื่อตรวจเรือประมงที่ท่าเรือโรงน้ำแข็งสห ตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม นายนิธิชัย ถิ่นอุดม เจ้าหน้าที่ประมง รองหัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า–ออกเรือประมง (PIPO) ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจเรือประมง เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจเรือในวันนี้เป็นการตรวจเรือออก ซึ่งเป็นเรือประมงลากคู่ของประชาชน ชื่อเรืออริยศิลป์ จำนวน 2 ลำ มีคนงานในเรือ 21 คน เป็นพม่า 16 คน ไทย 5 คน ตามที่กฎหมายกำหนด หลังตรวจไม่พบปัญหาหรือมีการกระทำผิดแต่อย่างใด โดยท่าที่ราชการกำหนดให้เป็นท่าเรือการตรวจเข้า-ออก ถูกกฎหมายซึ่งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงครามมีจำนวน 4 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือวัดปากสมุทร ท่าเรือโรงน้ำแข็งสห ท่าเรือโรงน้ำแข็งวายุบุตร และท่าเรือ ส. ตะวัน มีเรือที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมายประมาณ 200 ลำ เรือส่วนใหญ่เป็นเรืออวนลาก โดยศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า–ออกเรือประมง จะลงตรวจทุกวัน ส่วนใหญ่ไม่พบผู้ผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ไม่มีแรงงานผิดกฎหมาย นอกจากบางลำที่ไม่มีสัญญาจ้างแรงงาน ก็จะไม่ให้ออกเรือ
จ่าเอกอนัน จายะกัน ทหารเรือ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก เปิดเผยถึงขั้นตอนการตรวจเรือว่า จะมีการเรียกให้ลูกเรือแถว เช็คชื่อตามแบบฟอร์มการแจ้งเรือเข้า-ออก ท่าเรือ เช็คชื่อ และตรวจว่าตรงกับที่แจ้งมาหรือไม่ จากนั้นจะตรวจใบนายท้ายเรือและใบช่างเครื่อง และตรวจเอกสารทะเบียนเรือ
ด้านนายวิทยา ประชาฤทธิ์ภักดี เจ้าของเรืออริยศิลป์ เปิดเผยว่า หลังจากมีพ.ร.บ. ประมงฉบับใหม่ออกมา ทำให้มีปัญหาอยู่พักหนึ่ง ไม่สามารถออกเรือได้ เพราะไม่มีใบนายท้ายเรือและใบช่างเครื่อง ต้องรอสอบใหม่ และมีชาวบ้านที่เจอปัญหาอีกจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีอาชญาบัตรอวนลากคู่ ซึ่งปีสุดท้ายที่มีการออกให้ คือ พ.ศ. 2539 แต่ตัวเองได้ใบอาญชาบัตรมาเกือบ 20 ปีแล้ว ทำให้ไม่พบปัญหามากนัก เรือที่จะออกไปหาปลาจะออกไปถึงหน้าปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไป 12 วัน และจะกลับมาพัก 2 วัน แล้วจะออกไปใหม่ ส่วนใหญ่กลับมาจะได้ปลาทู และหมึก จำนวนมาก ส่วนเรื่องแรงงาน จะเป็นแรงงานที่ขึ้นทะเบียน มีสัญญาจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการดูแลอย่างทั่วถึง
...ผสข.สมจิตร์ พูลสุข