ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 65 เซนต์ ปิดที่ 54.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ข้อมูลการผลิตของจีนที่ออกมาอ่อนแออย่างไม่คาดคิด ทำให้เกิดความกังวลรอบใหม่เรื่องภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลกและผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนกรกฎาคม ลดลงแตะ 48.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จาก 49.4 ในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนดังกล่าวประกอบกับยอดขายบ้านชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในสหรัฐฯ ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบพอสมควร แม้มีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจของบริษัทยักษ์ใหญ่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 163.39 จุด ปิดที่ 17,568.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 22.50 จุด ปิดที่ 2,079.65 จุด แนสแดค ลดลง 57.78 จุด ปิดที่ 5,088.63 จุด
ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงทำให้เกิดแรงกดดันกับเชฟรอนและเอ็กซอนโมบิล ปรับลดร้อยละ 2.5 และ 1.5 ตามลำดับ ขณะเดียวกันหุ้นวอลล์สตรีท ยังได้รับผลกระทบจากตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมิถุนายน
ส่วนราคาทองคำ ปิดลบต่อเนื่อง ท่ามกลางความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,085.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์