*รอบวัน:ฝุ่นตลบปรับครม./แนะใช้มติมส.ธัมมชโยปราชิก?/ตั้งกก.ชะลอสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่*

24 กรกฎาคม 2558, 07:02น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30.



+++การส่งสัญญาณ ปรับ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ที่เริ่มชัดเจนขึ้น หลายคนจับตาไปที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หลังมีกระแสข่าวการปรับ ครม. เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประวิตรได้แจ้งลาป่วยตั้งแต่การประชุม ครม. วันที่ 21 ก.ค. และการประชุมสภากลาโหมเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ก็แจ้งลาป่วย   โดยมอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมแทน มีรายงานว่า หลังมีข่าวการปรับ ครม. ทำให้เกิดการวิ่งเต้นเก้าอี้รัฐมนตรีกันฝุ่นตลบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าหา พล.อ.ประวิตรแทบทั้งสิ้น ทำให้ พล.อ.ประวิตรค่อนข้างอึดอัดและเกรงใจนายกฯ จึงโลว์โปรไฟล์ไปในช่วงนี้ เพื่อลดการวิ่งเต้นลดบทบาทให้อำนาจสิทธิ์ขาดอยู่ที่นายกฯ โดยคนใกล้ชิดระบุว่า พล.อ.ประวิตรก็มีอาการป่วยจริงหลังต้องรับบทหนักเป็นประธานแก้ปัญหาสำคัญๆของรัฐบาลหลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม สำหรับตำแหน่งรองนายกฯควบ รมว.กลาโหมของ พล.อ.ประวิตรจะยังคงเหมือนเดิมแน่นอน



+++ สำหรับการปรับ ครม.ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการเร่งให้เร็วที่สุด พยายามให้เสร็จสิ้นก่อนงานสำคัญในเดือน ส.ค. ล่าสุดค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะมีการปรับไม่น้อยกว่า 7 กระทรวง เน้นหนักไปที่กระทรวงด้านเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับยกกระทรวง ทั้งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วย จึงน่าจะปรับเกินกว่า 10 ตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ลงตัว เพราะมีการวิ่งเต้นตั้งเงื่อนไขต่อรอง อีกทั้งยังมีความเกรงใจกันอยู่ จึงไม่สามารถทำให้เร็วได้



+++ภารกิจของนายกรัฐมนตรีวันนี้ นายกเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ  ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ



+++ด้าน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช.น อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมาตรา 44 มี คำสั่งให้ พล.ท.พงศกร รอดชมภู พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการ สมช. ให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ โดยให้นายปกรณ์ ศรีจันทร์งาม ผู้ช่วยเลขาธิการ สมช. ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สมช.แทน สำหรับ พล.ท.พงศกร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 14 (ตท.14) รุ่นเดียวกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ. แต่มีความสนิทสนมกับ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการ สมช. สมัย พล.ท.ภราดร แต่ช่วงที่นายถวิล เปลี่ยนศรี ได้กลับเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการสมช. ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เคยระบุว่างานแรกที่จะทำคือ การตรวจสอบ พล.ท.พงศกร เพราะทราบว่าเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะจัดซื้ออาวุธเพื่อนำไปใช้งานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีมูลค่าโครงการนับหมื่นล้านบาท ถือเป็นการกระทำที่ผิดหลักการของ สมช. ซึ่งเป็นหน่วยงานเชิงนโยบาย



++++พระพุทธอิสระยังคงเคลื่อนไหวให้ดำเนินการกับพระธัมมชโย หลังวานนี้ ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบกรณีผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม เพิกเฉยไม่ดำเนินการตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระสังฆราช ให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อาบัติปาราชิก รวมทั้งให้ตรวจสอบนายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุด ที่มีคำสั่งถอนฟ้องคดีอาญาพระธัมมชโยในความผิดเกี่ยวกับการลงชื่อเป็นเจ้าของการซื้อขายที่ดินปี 2549 เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมีเจตนาทุจริต ส่วนในวันนี้ จะไปยื่นหลักฐานต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานอัยการสูงสุด และกองปราบปราม ให้ดำเนินการบุคคลเกี่ยวข้อง และอยากท้าดีเบตกับพระธัมมชโยเรื่องพระวินัยด้วย



++ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สปช. กล่าวว่า เห็นด้วยกับนายกฯที่ไม่ใช้ ม.44 รื้อฟื้นคดีดังกล่าว ควรใช้วิธีตามปกติมากกว่า โดยนายกฯสามารถตั้งคณะกรรมการที่มีตัวแทนจากมหาเถรสมาคม (มส.) และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องร่วมกันตีความให้ชัดเจนเลยว่า การลงชื่อตนเองเป็นเจ้าของในการซื้อขายที่ดิน เมื่อปี 2549 ของพระธัมมชโย ผิดพระธรรมวินัย ต้องปาราชิก ตามที่พระสังฆราชเคยมีพระลิขิตแล้วหรือไม่ หากตีความว่ายังไม่ปาราชิก ก็ขอให้ มส.ลงมติรองรับด้วย  เพื่อลดความคลางแคลงใจจากสังคมและแก้ข้อครหาว่าธัมมชโยได้รับความช่วยเหลือจากกรรมการ มส.รูปหนึ่งมาโดยตลอด



+++ การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จำนวน 7 คน โดยที่ประชุมสนช.เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการฯ 17 คน มาทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติผู้ได้รับเสนอชื่อเป็น กสม.ทั้ง 7 คน ให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน  จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เสนอโดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. และสมาชิก สนช.รวม 55 คน โดยมีเนื้อสำคัญเพื่อควบคุม ป้องกันช่วยเหลือ และเยียวยา โดยเสนอให้มีคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กำหนดให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาและสุขภาวะทางเพศที่เหมาะสม สถานศึกษาต้องจัดให้วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรได้รับการศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษา



+++พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งนายสมบัติ ธรธรรม อดีตกรรมการบริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นที่ปรึกษา ทั้งที่มีคดีถูก ป.ป.ช.ไต่สวนการจัดประกวดให้เช่าเนื้อที่โฆษณาบนรถเมล์ปรับอากาศ 1,109 คัน ว่า ตอนแรกที่แต่งตั้งในปี 2555 ไม่พบว่ามีชื่อนายสมบัติเข้าไปเกี่ยวข้อง จนปี 2556 มีการขยายผลไต่สวนไปถึงนายสมบัติ แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายสมบัติได้สมัครใจขอหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะอนุกรรมการไต่สวนร่วมกับตนในทุกคดีแล้ว ส่วนที่ยังไม่ปลดนายสมบัติออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาฯ เนื่องจากยังไม่มีความผิด ยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา หากแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อไร จะปลดนายสมบัติออกจากตำแหน่งทันที



+++ชะลอออกไปก่อน หลังพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.รับข้อเสนอเครือข่ายปกป้องอันดามัน ให้ตั้งกรรมการจาก 3 ฝ่ายเพื่อหาทางออกกรณีสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และให้ทุกกระบวนการหยุดไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปตรงกัน ขณะที่เครือข่ายขอเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความมั่นใจ  นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายฯ บอกว่า ในวันนี้ เวลา 09.00 น.จะรอดูผลการหารือร่วมกันระหว่างกลุ่มเครือข่ายฯ กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) การไฟฟ้านครหลวง และกระทรวงพลังงาน เพื่อเป็นสิ่งยืนยันในลายลักษณ์อักษรตามบัญชาของนายกฯ



+++ขณะที่นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงานพร้อมที่จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นกับประชาชนในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อที่จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับ คณะกรรมการผู้ชำนาญการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดรับฟังความคิดเห็นกับประชาชนในพื้นที่ไปแล้วรวม 6 ครั้ง และในขั้นตอนของการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ (พีดีพี 2015) อยากจะเสนอแนะให้กลุ่มผู้คัดค้านเห็นแก่คนส่วนใหญ่ ที่เขาสนับสนุนให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ แต่ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างหอการค้าจังหวัดกระบี่, สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ และชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า เพราะเท่าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) รายงานข้อมูลมายังกระทรวงพลังงานนั้น ระบุว่าคนที่เป็นแกนนำการคัดค้านเรื่องนี้ เป็นคนนอกพื้นที่ และชุมชนที่ไม่เห็นด้วยในพื้นที่ ก็มีอยู่ 2 หมู่บ้านเท่านั้น 



++++ขณะที่นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ มีความจำเป็นในการเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลัก เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป กำลังผลิตไฟฟ้าที่พึ่งได้ ในพื้นที่ภาคใต้จะไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า หากไม่มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการควบคุมมลภาวะ และยังมีต้นทุนเชื้อเพลิงต่ำเพียง 2.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศในระยะยาวไม่สูงเกินไป

ข่าวทั้งหมด

X