*นายกฯย้ำกนช.วางแผนจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ – ตั้ง2คณะทำงาน เพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน*

22 กรกฎาคม 2558, 14:31น.


หลังการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช. ครั้งแรก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาแผนยุทธศาสตร์การบริหารการจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2558 - 2569 และการส่งมอบยุทธศาตร์ การบริหารการจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบของ ปี 2557 - 2569  แผนการทำงานเน้นการวางแผนที่ชัดเจน ทั้งน้ำที่ใช้ในการอุปโภค บริโภค น้ำดิบที่จะมาผลิตน้ำประปา น้ำสำหรับการเกษตรและภาคอุตสาหกรรม น้ำสำหรับผลักดันน้ำทะเล  นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า หากประชาชนยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้



ส่วนที่มีการนำน้ำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก อยากให้เข้าใจว่าภาคอุตสาหกรรมทำให้เกิดวงจรการผลิต เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ นำรายได้เข้าสู่ประเทศ หากภาคอุตสาหกรรมไม่สามารถดำเนินการได้ ทุกอย่างจะพังหมด ทั้งนี้ การส่งน้ำร้อยละ 80 ของประเทศไทย เป็นการส่งน้ำแบบระบบเปิด ทำให้น้ำไม่สามารถส่งไปถึงพื้นที่วิกฤตได้ มอบหมายกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ให้ใช้พืชน้ำน้อย โดยก่อนหน้านี้เคยขอให้ชะลอการปลูกข้าวแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตัวเองก็เข้าใจ และได้ดำเนินการจ้างงานในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องให้เกิดประโยชน์



เรื่องที่ประชาชนคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ประชาชนและกระทรวงพลังงานได้คุยกันมาตลอด แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง หากทำได้ก็ทำ แต่หากทำไม่ได้ ก็จะไม่ทำ



ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะเลขากนช. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้การประปานครหลวงและกรมชลประทาน หาวิธีการผันน้ำจากทางตะวันตกแทนการใช้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และอาจจะนำน้ำเจ้าพระยาส่งไปที่คลองสำแลโดยตรง แต่ต้องมีการศึกษาด้วยว่าจะมีผลต่อการผลักดันน้ำเค็มจากทะเลหรือไม่ ขณะเดียวกันกรมสารสนเทศเพื่อการเกษตร ยังเสนอให้หาแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่มเติมให้แก่การประปานครหลวง และศึกษาปริมาณน้ำของเขื่อนสิริกิตติ์และเขื่อนภูมิพลว่าสามารถใช้ประโยชน์ในการผลิตน้ำให้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้มากน้อยเพียงใด  ที่ประชุมตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ คือ คณะ ดูเรื่องความต้องการการใช้น้ำ และคณะที่ดูเรื่องการผลิตน้ำ หาน้ำต้นทุน  ทุกวันนี้น้ำที่มีอยู่ ถูกนำไปใช้ในภาคครัวเรือน ผลิตน้ำประปาร้อยละ 49 และใช้ในการภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงอื่นๆ อีกร้อยละ 51 ขอให้ภาคราชการลดการใช้น้ำจากร้อยละ 19 ให้เหลือร้อยละ 10 เพื่อเป็นต้นแบบให้ภาคเอกชน เกษตรกรและประชาชน



ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข



 

ข่าวทั้งหมด

X