ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนายอิซเซตติน คูคุก ผู้ว่าราชการจังหวัดชานลึอูร์ฟา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ว่าประชาชนจำนวนมากได้ร่วมงานศพของผู้เสียชีวิต 32 ศพจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในบริเวณศูนย์วัฒนธรรมอะมารา เมืองซูรุค ใกล้ชายแดนติดต่อกับซีเรียเมื่อวานนี้ ทางการตุรกีสงสัยว่าอาจจะลงมือก่อเหตุโดยมือระเบิดฆ่าตัวตายคนหนึ่งจากกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) นับเป็นเหตุรุนแรงอีกครั้งหนึ่งที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดในตุรกีในรอบหลายปีมานี้ นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บ 100 คน
นอกจากนี้มีภาพถ่ายและคลิปวีดีโอที่มีผู้บันทึกไว้ขณะเกิดเหตุแสดงให้เห็นชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ในจุดเกิดเหตุ คนส่วนใหญ่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรีดร้องและหนีตายอย่างอลหม่าน ขณะที่ทีมกู้ภัยรุดเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย เหตุรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เยาวชนราว 300 คนร่วมกิจกรรมรณรงค์ให้มีการช่วยฟื้นฟูบูรณะเมืองโคบานีของซีเรีย ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด สำหรับเมืองซูรุคห่างราว 6 ไมล์จากชายแดนและเมืองโคบานี พื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างดุเดือดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีก่อน ระหว่างกองกำลังเคิร์ด ที่ได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ กับกลุ่มไอเอส
ด้านนายกรัฐมนตรีอาเหม็ด ดาวูโตกลู ของตุรกี กล่าวหากลุ่มไอเอสว่าอยู่เบื้องหลังการลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ระบุว่ากลุ่มไอเอสไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของซีเรีย แต่เป็นภัยคุกคามต่อตุรกีเช่นกัน เพิ่มเติมว่ารัฐบาลตุรกีจะทำการสอบสวนโดยเร็วเพื่อนำผู้กระทำผิดไปลงโทษตามกฎหมายต่อไป/19.35 น.