ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กำหนดให้การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เป็นวาระแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อไม่ให้ประชาชนขาดน้ำไปจนถึงปี 2559 โดยระยะแรก จะต้องดำเนินการเรื่องหาแหล่งน้ำ เช่น ทำโครงการแก้มลิง ,การขุดคูคลอง ,จัดทำอ่างเก็บน้ำ ,ซึ่งจะใช้งบประมาณรายปี และวงเงินกู้ในการดำเนินการประมาณ 3หมื่นล้านบาท พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่อยากให้ใครเดือดร้อน
ส่วนการขอรับบริจาคน้ำดื่มนั้นทางรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังจะขอน้ำจากใคร แต่เป็นความต้องความต้องการจากภาคประชาชน ดังนั้นรัฐบาลจะจัดหาวิธีดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ในการกระจายน้ำบริจาคไปยังจุดต่างๆ พร้อมทั้งขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปหาวิธีการในการสูบน้ำจากแหล่งน้ำให้ดีขึ้น ส่วนการขุดบ่อบาดาลเป็นเพียงมาตรการช่วยเหลือทางการเกษตร แต่อยากให้เกษตรกรประหยัด และนึกถึงน้ำต้นทุนในอนาคต และยังขอร้องให้คนกรุงเทพ ช่วยกันประหยัดน้ำ เช่น ลดการล้างรถ เพราะขณะนี้ มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนระยะที่ 2 พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการจ้างงานตามระเบียบ และให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดูแลการปลูกพืชหมุนเวียนทดแทนการปลูกข้าว และให้ คสช. ดูแลชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในการกระจายน้ำจากแหล่งน้ำไปใช้ในพื้นที่ รวมถึงขอให้เห็นใจทหารที่เข้าไปดูแลประชาชน ส่วนในระยะที่ 3 รัฐบาลจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเสียหายจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นไปตามขั้นตอน พร้อมทั้ง ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีเจตนาทำให้ประชาชนต้องเสียใจกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งควรที่จะเก็บน้ำตาไว้เพื่อเป็นการแสดงความดีใจหลังจากที่รัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือแล้ว
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลจะมีการหาคือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในวันพรุ่งนี้ 22 ก.ค. พร้อมเผยว่า หากประชาชนมีปัญหาหรือ หนี้สินขอให้แจ้งผ่านศูนย์ดำรงธรรมได้เลย เพราะรัฐบาลต้องดูแลคนกว่า 60 ล้านคน