ธนาคารหลายแห่งในกรีซเตรียมกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์นี้ หลังจากปิดทำการมานาน 3 สัปดาห์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคิดเป็นเงินประมาณ 3 พันล้านยูโร หรือ 3,300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ การเปิดทำการของธนาคารในครั้งนี้ มาพร้อมกับการขึ้นภาษีรอบใหม่ หลังจากที่ทางการกรีซเจรจากับประเทศเจ้าหนี้ได้ในระดับหนึ่ง รายงานระบุว่า วิกฤติเศรษฐกิจในกรีซส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำตาล โกโก้ อันเนื่องมาจากภาษีที่แพงขึ้น ด้านนายมิเชล ซาปิน รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสมองว่า ปัญหาในกรีซเป็นปัญหาเรื่องการขาดความเชื่อมั่นอย่างแท้จริง และดูเหมือนว่า ขณะนี้ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมาแล้ว ด้านนางโอลก้า เกโรวาซิลี่ โฆษกรัฐบาลคนใหม่ กล่าวว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของกรีซ และเป็นช่วงที่ต้องการให้เกิดการปฏิบัติงาน มากกว่าการพูด เพื่อทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยและมั่นคงภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล ส่วนนายดิมิทริส มาร์ดัสรัฐมนตรีช่วยคลังของกรีซ ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุ ยืนยันว่า ธนาคารทุกแห่งในกรีซจะกลับมาเปิดให้บริการในวันพรุ่งนี้และธนาคารจะเสนอการให้บริการต่างๆอย่างกว้างขวางมากขึ้นแก่ลูกค้าแม้ยังจำกัดมาตรการการถอนเงินสดและการโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปยังอีกบัญชีหนึ่ง นอกจากนี้ นายมาร์ดัส กล่าวว่า ในการทำธุรกรรมทางการเงินยังคงดำเนินไปตามปกติ แต่อาจยังไม่มีการจ่ายเป็นเงินสด ยกเว้นการส่งออกของบริษัทต่างๆ การทำธุรกรรมของกลุ่มบริษัทชิปปิ้ง และการดำเนินการของกลุ่มบริษัทท่องเที่ยว เนื่องจากการทำธุรกรรมของกลุ่มเหล่านี้ เป็นการนำเงินตราใหม่ๆ เข้าสู่ประเทศ