*หัวหน้าศูนย์แก้ปัญหาประมงสมุทรสาคร พอใจการขึ้นทะเบียนเรือประมง ยังมีส่วนน้อยที่รอมาตรการผ่อนปรน*

18 กรกฎาคม 2558, 15:24น.


แนวทางดำเนินงานการตรวจดูการเข้า-ออกของเรือประมง และตรวจดูเรือประมง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร นาวาโทพิศาล หาญภักดี หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง หรือ พีไอพีโอ จังหวัดสมุทรสาคร เล่าให้ฟังว่า ภาพรวม น่าพอใจ หลังจากที่มีการจัดระเบียบและขึ้นทะเบียนเรือ เพราะสามารถแบ่งประเภทและจัดกลุ่มได้อย่างชัดเจน ศูนย์ทำงานภายใต้สังกัดของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ. ซึ่งที่นี่จะคอยตรวจการเข้าออกของเรือประมง ขนาด 30 ตันขึ้นไป ว่าก่อนออกไปทำประมงมีเอกสาร เช่น เอกสารประจำเรือ ,เอกสารการจ้างแรงงาน ,และเอกสารการขึ้นทะเบียนถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยจะต้องแจ้งก่อนออกไป 12 ชั่วโมง หรืออย่างช้าภายใน 3 ชั่วโมงก่อนออก ส่วนขากลับเข้าฝั่งก็ต้องดูบันทึกการจับสัตว์น้ำประจำเรือ คือ ข้อมูลว่าเรือไปทำประมงที่ใด ได้สัตว์น้ำชนิดอะไรเข้าฝั่งมา และมีน้ำหนักเท่าไหร่เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล 



ทั้งนี้ จากที่เปิดให้เรือขนาดใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาครมาขึ้นทะเบียนนั้น ตอนนี้มีประมาณร้อยละ 80-90 ของเรือทั้งหมด ซึ่งในส่วนที่เหลือจะเป็นพวกสภาพเรือที่ยังไม่ตรงตามระเบียบที่กำหนดไว้ โดยตอนนี้เรือเหล่านั้นก็จอดอยู่ ซึ่งเรือในกลุ่มนี้ ผู้ประกอบการเสนอให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ เยียวยา หรือผ่อนปรนมาตรการลงอีก เพราะอยากจะเปลี่ยนอาชีพใหม่ ผู้ประกอบการบางราย มองว่าในอนาคตไม่คุ้มต่อการประกอบอาชีพประมง  เพราะถ้าออกไปทำประมงและถูกตรวจพบว่าเป็นเรือที่ผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 1แสนบาท จำคุกไม่เกิน 1ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถึงอย่างไรขณะนี้หน่วยงานรัฐก็ผ่อนปรนขยายระยะเวลาให้เรือที่ตกค้างมาขึ้นทะเบียนจนถึงช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้



ส่วนเรือขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ตามข้อบังคับที่กำหนด ศูนย์ศปมผ.ก็ต้องจัดระเบียบไปพร้อมกัน เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบในอนาคต ซึ่งขณะนี้ก็มีชาวประมงเรือเล็กในพื้นที่มาติดต่อที่เตรียมขอขึ้นทะเบียนแล้ว 300-400คน ส่วนการดำเนิน 6 มาตรการแก้ปัญหาตามที่อียู กำหนดว่าให้ไทยจะต้องดำเนินการนั้น ขณะนี้ในพื้นที่ก็จะดำเนินการควบคู่กับศูนย์ฯ ศปมผ. ไปพร้อมๆกัน แต่ถึงอย่างไรขณะนี้ในพื้นที่ก็ยังไม่พบปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินมาตรการนี้  อย่างไรก็ตามขณะนี้เรื่องที่น่าเป็นห่วง คือ ต้องเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตรวจเรือเข้า-ออก ในช่วงการเปิดอ่าว หลังจากวันที่ 1สิงหาคมนี้ เพราะจะมีเรือประมงในจังหวัดสมุทรสาครออกมาทำประมงเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10เท่า ซึ้งในตอนนี้มีวันหนึ่งประมาณ 27ลำ ซึ่งศูนย์ก็ต้องเตรียมความพร้อมทำงานร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด



ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด 

ข่าวทั้งหมด

X