เมื่อเวลา 09.08 น. วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ตำรวจ สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ถ.สุทธาวาส แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมสิทธิ์ สันทัสนะโชค ผกก.สน.บางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 4 ชั้น ที่หน้าบ้านติดป้ายระบุชื่อของตำรวจยศ พันตำรวจเอก เบื้องต้น พบผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกทราบชื่อ นายกนณธร สุชาคำ อายุ 39 ปี ใกล้กันพบศพ นางสิริลักษณ์ มัณฑนาจารุ อายุ 42 ปี (ภรรยา) และ ด.ญ.กัญญกร สุชาคำ อายุ 9 ปี (ลูกสาว) โดยพบอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิดตกอยู่บริเวณด้านข้าง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เบื้องต้น ทราบว่า จุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ของบ้าน เป็นห้องนอน พบทั้ง 3 ศพนอนจมกองเลือด โดยสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุเป็นสามี มีอาการป่วยจิตเวช คาดว่าเครียด ก่อเหตุยิงลูกสาวที่อายุ 9 ขวบ และภรรยา ก่อนจะยิงตัวเองตามส่วนตำรวจยศ พันตำรวจเอก ทราบภายหลังคือ ปู่ เจ้าของบ้าน ซึ่งเกษียณอายุราชการมานานหลายปี และเพิ่งจะเสียชีวิตจากอาการป่วยด้วยโรคประจำตัวไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์
ร้อยตำรวจโทพัฒนเศรษฐ เลิศศราวุธ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย เข้าตรวจสอบเหตุ ใช้อาวุธปืนภายในบ้านหลังหนึ่งบริเวณตลาดศาลาน้ำเย็น จากการตรวจสอบพบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ สูง 4 ชั้น หน้าบ้านมีป้ายชื่อของตำรวจยศ พันตำรวจเอก ติดอยู่จากการสอบถาม เบื้องต้น ทราบว่า จุดเกิดเหตุ อยู่ที่บริเวณชั้น 3 ของบ้าน ภายในห้องนอน พบมีผู้เสียชีวิต 3 คน คือเด็กหญิงอายุ9 ขวบ สวมชุดนอนเสื้อยืดแขนยาวกางเกงขายาวลายการ์ตูนมีผ้าห่มปิดบังศพ โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 1 นัด ใกล้กันพบศพ นางสิริรักษณ์ อายุ 42 ปี มารดาของเด็กนอนเสียชีวิต ลักษณะกอดขาลูกสาว มีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาดเดียวกันหนึ่งนัดที่ศีรษะ ศพสุดท้ายคือนายกนณธร อายุ 39 ปี สามี ซึ่งเป็นลูกชายของพันตำรวจเอกอุดมศักดิ์ สุชาคำ อดีตผู้กำกับตำรวจภูธรภาค 7 และเป็นอาจารย์สอนโรงเรียน ในร้อยตำรวจซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว นอนหงายหนุนต้นขาภรรยา มีบาดแผล ถูกอาวุธปืนขนาดเดียวกันยิงที่ศีรษะ ข้างศพพบอาวุธปืน 1 กระบอก
ขณะที่ แม่บ้านผู้พบศพ อายุ 50 ปี เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวยอมรับว่า เป็นแม่บ้านของที่นี่ลักษณะงานจะรับเป็นครั้งคราว และไม่ได้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้ โดยเดินทางมาเช้าเย็นกลับเบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังนี้มีผู้พักอาศัยเพียงคนเดียว คือ นายกนณธร ส่วนเจ้าของบ้านคือพันตำรวจเอกอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นบิดา ทราบว่าเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ โดยในช่วงเกิดเหตุตัวเองไม่สามารถ เข้าไปภายในบ้านได้เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวต้องใช้รหัสเปิดประตู ก่อนที่ภรรยาของอดีตตำรวจจะมาเปิดประตูจึงเข้าไปได้ แต่ตัวเองก็ไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ทราบว่า นายกนณธร มีอาการเครียด ไม่ได้นอนมาหลายวัน เนื่องจาก บิดาเพิ่งเสียชีวิต ส่วนลูกและภรรยาที่มาที่บ้านหลังนี้ ตนเองไม่ทราบว่าใช้ชีวิตอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ทั้ง 2 คน ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ส่วนเวลาเกิดเหตุตัวเองไม่ทราบเนื่องจากเดินทางกลับเมื่อเวลาประมาณ 23:00 น. ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่พบเหตุการณ์ที่ผิดปกติ
#ยิง3ศพ
#ลูกชายอดีตนายตำรวจ