นายกฯ อนุทินเยือนลาว ยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ คมนาคมและพลังงาน

วันนี้, 04:40น.


          นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ ในวาระครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 75 ปี ในปี 2568 โดยมีความใกล้ชิดด้วยมรดกร่วมทางวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของผู้คน มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ



          จากนั้นนายกรัฐมนตรีและนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว เป็นประธานร่วมการหารือเต็มคณะ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาล สปป. ลาว ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และเชิญนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว เยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่น้ำโขง – ล้านช้าง (MLC Summit) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในปลายปีนี้ (2568) ขณะเดียวกัน ไทยพร้อมเข้าร่วมประชุม JC และ JBC ที่ลาวจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้



          ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้



          ความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์และการค้ามนุษย์ โดยไทยจะยกระดับความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติดและสารตั้งต้นและสนับสนุนงบประมาณและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่าย สปป.ลาวในภารกิจความมั่นคง นอกจากนี้ ไทยขอให้ลาวมอบหมายหน่วยงานหลักประสานกับศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์และการค้ามนุษย์นานาชาติ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมการฉ้อโกงออนไลน์และค้ามนุษย์ตามแนวชายแดน พร้อมกับจะมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการค้ามนุษย์ เพื่อให้ช่วยเหลือประชาชนจากทั้งสองประเทศ



          ประเด็นหมอกควันข้ามแดนและการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส โดยไทยจะสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการจัดเก็บข้อมูลและการแจ้งเตือนประชาชน



          นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมของไทย ในการจัดการประชุมระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว (COOP ครั้งที่ 8) เพื่อกำหนดแนวทางเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าชายแดน และการส่งเสริมเครือข่ายผู้กระกอบการ SMEs เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ภายในปี 2027



          นายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่า โครงการด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ หลายโครงการมีความคืบหน้า สร้างประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมให้กับประชาชนทั้งสองฝ่าย อาทิ ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าชายแดนและผ่านแดนให้มีความคล่องตัว ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ 3 มากขึ้น ทั้งการเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ในอนาคตอันใกล้นี้ การเสริมกำลังสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) ให้แล้วเสร็จ และการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข 12



          ไทยพร้อมพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพื่ออำนวยความสะดวกการคมนาคมระหว่างไทยและ สปป.ลาว ครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมืองเชียงแมน-หลวงพระบาง การหารือโครงการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร



          ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านพลังงานอย่างใกล้ชิดเพื่อจูงใจการลงทุนในอุตสาหกรรมสีเขียว นายกรัฐมนตรีขอการสนับสนุนการลงทุนจากไทยในด้านพลังงานและธุรกิจ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ที่ไทยมีศักยภาพทำให้ทั้งสองประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าร่วมกันได้มากขึ้น



          ที่ประชุม ยังได้หารือถึงความร่วมมือในกรอบพหุภาคีอย่างสร้างสรรค์ ไทยพร้อมมีบทบาทเชิงรุกและสร้างสรรค์ในการสนับสนุนให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมา และเชื่อว่าการเลือกตั้งของเมียนมาที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสันติภาพและจะเป็นก้าวที่สำคัญของการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองด้วย



....



#75ปีความสัมพันธ์ไทยลาว



#ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวทั้งหมด

X