นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เทศกาลกินเจ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-29 ตุลาคม 2568 หอการค้าคาดว่าจะมีเงินสะพัดรวมทั้งสิ้น 45,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับกินเจปีก่อน ที่มีเงินสะพัด 45,003 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงที่สุดในรอบ 5 ปี แม้มูลค่าจะเพิ่มขึ้น แต่ก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังระมัดระวังการใช้จ่าย เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดี รวมทั้งเทศกาลกินเจปีนี้ยังไม่ได้รับผลจากโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่มใช้เงินในวันที่ 29 ต.ค. 2568 นี้
ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 นี้ว่าคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 0.8-1.1% ทำให้ตัวเลขจีดีพีทั้งปีนี้ อาจโตได้ 2-2.2% เนื่องจากจะมีเม็ดเงินจากหลายโครงการเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ โครงการคนละครึ่งพลัส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรการเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้างและเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐจะเข้ามาช่วยกระตุ้น
คาดว่าในช่วงปลายปีจะมีเม็ดเงินจากโครงการคนละครึ่งพลัสเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ 59,080 ล้านบาท โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 22,780 ล้านบาท และโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวด้วยการลดหย่อนภาษีอีก 35,000 ล้านบาท รวมเป็น 1-1.5 แสนล้านบาท เชื่อว่าจะช่วยผลักให้จีดีพีไทยในไตรมาส 4 โตเพิ่มขึ้นอีก 0.5-0.8% และดันให้จีดีพีทั้งปีนี้ของไทยโตได้เกิน 2%
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องเร่งวางโครงสร้างและมาตรการด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจไทยโดยเร็ว เพื่อเร่งอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากขณะนี้ไทยมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำสุดในอาเซียน โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ คาดว่าปีนี้ไทยจะเติบโตได้ 2% ส่วนปี 2569 จะเติบโตลดลต่ำลงเหลือ 1.6%
ด้านนางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจปี 2568 จากการสำรวจ 1,272 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 6-12 ต.ค.2568 ว่าคนส่วนใหญ่ 66% ไม่กินเจ มีการกินเจเพียง 34% เหตุผลที่กินเจ เนื่องจากตั้งใจทำบุญ รองลงมา กินเฉพาะเทศกาล มีกินฟรีที่โรงเจ และมีคุณค่าทางอาหาร
สำหรับอาหารเจปีนี้ผู้ตอบส่วนใหญ่ 73.9% มองว่ามีราคาแพงขึ้น, 23.5% มองว่าเท่าเดิม และ 2.6% มองว่า ลดลง โดยคนที่กินเจ 7.1% ระบุว่ามีการวางแผนเดินทางไปทำบุญตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดยมีมูลค่าเดินทางไปทำบุญเฉลี่ย 5,066 บาท/คน ส่วนมูลค่าทำบุญเฉลี่ยอยู่ที่ 1,746 บาท/คน
ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายกินเจปีนี้เทียบปีก่อน ในเชิงปริมาณการซื้อ ส่วนใหญ่ 52.8% ตอบว่าซื้อในปริมาณที่เท่าเดิม ส่วนมูลค่าในการซื้อ ส่วนใหญ่ 47.0% ซื้อในมูลค่าเท่ากับปีก่อนเช่นกัน และมองว่าเทศกาลกินเจปีนี้คึกคักใกล้เคียงกับปีก่อน
นอกจากนี้ยังมีการสอบถามถึงความกังวลและเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเร่งด่วน พบว่าประชาชนกังวลและต้องการให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจและค่าครองชีพสูงมากที่สุด รองลงมาคือ ปัญหาหนี้สินครัวเรือน, การว่างงานและความมั่นคงในอาชีพ การคอร์รัปชั่นในภาครัฐและเอกชน และปัญหายาเสพติด
#เงินสะพัดเทศกาลกินเจ68
#ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
#มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย