ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ชี้แจงรูปแบบการลงมติโดยให้เลขาธิการสภาอ่านชื่อแต่ละคนแล้วให้สมาชิกขานว่ารับหรือไม่รับหลักการ หรืองดออกเสียงแต่ละฉบับ ร่างฉบับที่ 1 เป็นของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และคณะ ร่างฉบับที่ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ และฉบับที่ 3 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะ
ทั้งนี้ ต้องได้เสียง ส.ว.สนับสนุนในแต่ละฉบับ 1 ใน 3 จากนั้นได้ขานชื่อเรียงตามตัวอักษร โดยใช้เวลา 3 ชั่วโมง ผลปรากฏว่า ฉบับที่ 1 รับหลักการ 568 เสียง ไม่รับหลักการ 10 เสียง งดออกเสียง 74 เสียง ฉบับที่ 2 รับหลักการ 629 เสียง ฉบับที่ 3 รับหลักการ 521 เสียง แต่มีเสียง ส.ว.สนับสนุนเพียง 60 เสียง ถือว่าที่ประชุมไม่รับหลักการ โดยตั้ง กมธ.วิสามัญฯพิจารณา จำนวน 43 คน กำหนดการแปรญัตติ 15 วัน
สำหรับรายชื่อ กมธ.วิสามัญ จำนวน 43 คน เป็นสัดส่วนที่มาจาก ส.ว. 12 คน ส.ส. 31 คน โดยสัดส่วนพรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชน 9 คน พรรคเพื่อไทย 9 คน พรรคภูมิใจไทย 4 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคกล้าธรรม พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชาติ 1 คน
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาว่าจะใช้ร่างใดเป็นร่างหลักในการพิจารณา โดย น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอให้ใช้ร่างของพรรค ภท.เป็นร่างหลัก ขณะที่นายพริษฐ์ก็ได้เสนอให้ใช้ร่างพรรค ปชน.เป็นร่างหลัก
ที่ประชุมได้ลงมติว่าจะใช้ร่างใดเป็นร่างหลัก ถ้าต้องการใช้ร่างของนายอนุทินเป็นหลักกดปุ่มไม่เห็นด้วย ถ้าต้องการใช้ร่างของนายพริษฐ์เป็นหลักกดปุ่มเห็นด้วย ผลปรากฏว่า ที่ประชุมเห็นด้วย 292 ไม่เห็นด้วย 297 งดออกเสียง 15 ถือว่าที่ประชุมใช้ร่างของนายอนุทินเป็นหลัก แต่ที่ประชุมยังไม่ยินยอม เนื่องจากมีทั้งการเสียบบัตรและขานชื่อ อยากให้ประธานโหวตใหม่อีกครั้ง ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่าตามข้อบังคับการประชุมการจะให้นับใหม่กรณีที่คะแนนแตกต่างกันไม่มาก จะให้นับด้วยการขานชื่อ ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. เสนอญัตติให้นับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ แต่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรค ภท. โต้แย้งว่าการนับคะแนนใหม่คือการเอาคะแนนมานับใหม่ ไม่ใช่การลงมติใหม่
ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์วินิจฉัยให้นับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 19.40 น. นายวันมูหะมัดนอร์ขานผลคะแนนว่า ร่างของนายพริษฐ์ได้ 300 คะแนน ร่างของนายอนุทินได้ 287 คะแนน จึงเห็นว่าที่ประชุมมีมติใช้ร่างของนายพริษฐ์เป็นร่างหลัก