15 ตุลาคม 2568 นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 5,783,958.58 บาท
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ในช่วงปี พ.ศ.2553-2557 ขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายได้ และไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของทรัพย์สินได้จำนวน 2 รายการ รวมมูลค่า 5,783,958.58 บาท ดังนี้
1.ที่ดินและตึกสองชั้น ต.ลาดพร้าว อ.บางกะปิ จ.กรุงเทพมหานคร เฉพาะส่วนที่มีมูลค่า 1,420,462.06 บาท
2.ที่ดิน ต.ลาดพร้าว อ.บางกะปิ จ.กรุงเทพมหานคร เฉพาะส่วนที่มีมูลค่า 4,363,496.52 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติสืบเนื่องจากการเปรียบเทียบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 5,783,958.58 บาท ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเพื่อสั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคห้า
หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 125
#ปปชชี้มูล
#สมาชิกสภากทม