ราคาทองคำทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ในวันอังคาร(14ต.ค.) จากความคาดหมายว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีกรอบในเดือนนี้ และนักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 30.40 ดอลลาร์ หรือ 0.70 % ปิดที่ 4,163.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 58.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 93 เซนต์ ปิดที่ 62.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทบวงพลังงานสากลคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญกับภาวะอุปทานส่วนเกินสูงสุดถึง 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตอย่างโอเปกพลัสและคู่แข่งต่างปรับเพิ่มกำลังผลิต สวนทางกับอุปสงค์ที่ยังซบเซา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันอังคาร(14 ต.ค.) นักลงทุนทบทวนรายงานผลประกอบการรายไตรมาสจากบรรดาสถาบันการเงินรายใหญ่ และสงครามการค้า
+++ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 202.88 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 46,270.46
+++เอสแอนด์พี ลดลง 10.41 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,644.31 จุด
+++แนสแดค ลดลง 172.91 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,521.70 จุด
นักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยทั้ง 2 ประเทศ หลังเริ่มค่าธรรมเนียมท่าเรือเพิ่มเติมกับบรรดาบริษัทขนส่งทางทะเล ในความเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบกับทุกๆอย่างไล่ตั้งแต่ของเล่นในวันหยุดไปจนถึงน้ำมันดิบ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เผยว่าสหรัฐ กำลังพิจารณาตัดความสัมพันธ์ทางการค้าบางอย่างกับจีน ในนั้นรวมถึงเกี่ยวกับน้ำมันประกอบอาหาร