*ไอยูยู จะตั้งคณะทำงานด้านกม.ดูข้อท้วงติงอียู เร่งให้ทันมาตรวจสอบต.ค.*

17 กรกฎาคม 2558, 14:42น.


หลังการประชุมแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายหรือ ไอยูยู พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะประธานการประชุมแก้ไขปัญหาไอยูยู กล่าวว่า สหภาพยุโรป(อียู)แจ้งว่าไทยยังดำเนินการไม่เรียบร้อย ได้ทำความเข้าใจให้ทุกส่วนดำเนินงานให้สมบูรณ์และศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.)เร่งรัดอยู่ ยืนยันว่าทุกคนทำงานหนักไม่ได้ละเลย ต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่ตัวแทนอียูจะมาตรวจสอบในเดือนตุลาคม เพราะส่งผลต่อการปลคล็อคใบเหลืองไทย ส่วนตัวเชื่อว่าไทยคงไม่ถูกประเมินต่ำไปกว่าใบเหลืองแล้ว ถ้ามีเรือผิดกฎก็ยังยืนยันว่าไม่มีผ่อนปรน ต้องจอดที่ชายฝั่ง ขณะนี้เหลือเรือผิดกฎหมายประมาณ 3 พันลำ และได้เร่งให้ทุกฝ่ายสร้างความรับรู้ในการแก้ปัญหาของไทยให้กับต่างประเทศและหน่วยงานเอ็นจีโอรับรู้ด้วย



พล.อ.ประวิตร ระบุว่า อาจต้องตั้งคณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อช่วยแก้ไขกฎหมายที่อียูส่งกลับมาโดยเฉพาะ นอกจากนี้ระบุว่า ต้องมีการเพิ่มสัตว์น้ำในทะเลให้ได้ปีละร้อยละ 10 หลังสัตว์น้ำลดลงต่อเนื่อง ส่วนขณะนี้การทำงานก็ไม่มีปัญหาใดติดขัด และได้จัดศูนย์วันสต็อปเซอร์วิสกลางทะเลไปอำนวยความสะดวกให้เรือประมงกลางทะเลในการจดทะเบียนอาชญาบัตรแล้วด้วยเชื่อว่าชาวประมงเข้าใจการทำงานของรัฐบาลพร้อมทั้งสั่งให้กองทัพเรือไปพิจารณาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้วในภาพรวม



นาย ปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย อียูได้ให้คำแนะนำและข้อคิดเห็นในสามประเด็นหลัก คือ การปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับใหม่  การจัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรบนบกและข้อปฎิบัติเกี่ยวกับการป้องกันปัญหาต่างๆ ในส่วนกฎหมายที่เป็นร่างกฎหมายฉบับใหม่ระบุว่าอียูไม่ได้บังคับให้แก้ไขเป็นแค่คำแนะนำเท่านั้นไทยมีสิทธิตัดสินใจเองแต่ขณะนี้ยังพูดไม่ได้ว่าต้องปรับแก้จุดใดเพราะต้องดูภาพรวมและคุยกันอีกครั้ง ส่วนวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ก็จะมีการประสานงานในการหารือกับผู้แทนอียูถึงกรณีดังกล่าว 



ด้านนายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาประมงที่ประชุมในวันนี้เป็นการทบทวนการทำงานและถือว่ายังเป็นไปตามกรอบโรดแม็พ แต่การเข้ามาประเมินยังไม่ได้รับการปลดล็อคใบเหลือง คาดไทยต้องใช้เวลา 1 ปีจึงจะรู้ผล ต้องส่งต่อการทำงานให้รัฐบาลชุดใหม่  อียูได้ติงถึงรูปแบบกฎหมายของไทย มั่นใจไทยสามารถแก้ปัญหาและทำความเข้าใจได้ ส่วนการสั่งห้ามชาวประมงนำอุปกรณ์บางชนิดออกหาปลา  จะมีการพิจารณาขั้นตอนการเยียวยาอีกครั้ง นอกจากนี้มีการตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจเร่งด่วนซึ่งมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ควบคุม หลักในส่วนนโยบายและทางปฏิบัติเพื่อให้ทันสถานการณ์



ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร  

ข่าวทั้งหมด

X