กรณีการโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็น ยหลังกัน จอมพลัง อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เปิดเสียงผีและเครื่องบินรบที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นางอังคณา นีละไพจิตร ส.ว. กล่าวว่า ไม่ได้ตำหนิใคร ที่โพสต์ไปเป็นการแปลหนังสือของประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) แห่งกัมพูชา ที่ทำหนังสือโดยตรงถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นการแปลข้อความและกังวลว่าจะเป็นการทรมานทางจิตวิทยาตามที่เขาอ้างหรือไม่ เพราะเป็นการกระทำต่อพลเรือน เขาพูดถึงผลกระทบต่อผู้เปราะบาง เช่น ผู้หญิง ผู้สูงอายุ เด็ก เป็นต้น รวมถึงเป็นการตั้งคำถามว่าผู้แทนไทยจะตอบในเวทีสากลว่าอย่างไร
นางอังคณา ยืนยันว่า ไม่ได้ไปส่งเสริมอะไรฝั่งกัมพูชา พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ขัดแย้ง ตนยกตัวอย่าง ที่ทางกองทัพบอกว่าเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ ซึ่งตนมองว่าที่จริงถ้าเทียบกัน ในช่วงที่กรุงเทพฯมีการประท้วงกันเยอะๆ ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ก็ใช้เครื่องเสียง เพื่อที่จะให้มีการสลายการชุมนุม ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นปฏิบัติการเรื่องการสลายการชุมนุม ความถี่ของคลื่นเสียงมีมาตรมาตรฐานที่กำหนดโดย WHO อยู่แล้ว
แต่หนังสือที่ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชาเขาระบุว่ามีการเปิดเสียง ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ตีสาม ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่พลเรือนพักผ่อน และเหตุการณ์ขณะนั้น เท่าที่ทราบ ไม่ได้มีการชุมนุมหรือปะทะกัน ก็เพียงแต่ห่วงใยว่าเป็นตามหนังสือที่เขาส่งถึงสหประชาชาติ จะเป็นไปตามสิ่งที่เขาร้องเรียนหรือไม่ ว่าอาจจะเป็นเรื่องของการทรมานทางจิตวิทยา
เมื่อถามว่าฝั่งกัมพูชาใช้โพสต์นี้ ไปเพิ่มน้ำหนักให้ตัวเอง นางอังคณา กล่าวว่า บอกตรงๆ ว่าไม่ว่าใครจะพูดอะไร เขาเอาไปหมด ส่วนตัวก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะโพสต์นี้เป็นโพสต์สาธารณะ ไม่ได้ปิดบังและเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตอยู่แล้ว แต่ถามว่าในสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูฯ ทำ เขาก็เอาไปฟ้องหมดเลย เขียนไปรายงานไปฟ้องหมดเลย เขาส่งหนังสือจนถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน