หลังการประชุมป้องกันการทรุดตัวของถนนคันคลองชลประทาน นายดรุน แสงฉาย อธิบดีกรมทางหลวงชนบทกล่าวว่า การทรุดตัวของถนนคันคลองชลประทาน ยังมีพื้นที่เฝ้าระวังที่น่าเป็นห่วงที่สุดในขณะนี้คือพื้นที่ถนนเลียบคลอง 13 ในพื้นที่คลองระพีพัฒน์ และคลองพระยาบันลือ ที่ขณะนี้มีถนนทรุดตัวลงถึง กว่า 20 จุด เบื้องต้นได้แก้ไขถนนที่ทรุดตัว หลังจากได้เร่งดำเนินการคืนผิวถนนเป็นการชั่วคราวภายใน 5-7 วันและจากการสอบถามจากประชาชนก็พอใจกับการคืนผิวถนนชั่วคราว ได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนายเมธา ทวีกุลกิจชัย นายอำเภอหนองเสือ กล่าวถึงปัญหาถนนทรุดตัวในพื้นที่อำเภอหนองเสือนั้นเป็นปัญหาทรุดมากกว่าในหลายๆเส้นทาง ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนเองก็มีความกังวล ว่าจะส่งผลกระทบไปจนถึงที่พักอาศัยและที่ทำกิน ทั้งนี้เหตุถนนทรุดเริ่มตั้งแต่บริเวณ พื้นที่คลอง 9 และเริ่มทรุดมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้ทางท้องถิ่น และผู้ประกอบการรถบรรทุก เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และถือว่าเป็นที่น่ายินดีที่ทางกรมทางหลวงชนบทที่จะดำเนินการซ่อมแซมพื้นถนนให้แล้วเสร็จในเดือน มีนาคม 2559
ส่วนนายสมศักดิ์ เกตุจำนงค์ ผู้ว่าการสำนักงานกรมชลประทาน 11 ระบุว่าเมื่อ ปี 2552 ทางกรมชลประทานได้ส่งต่อถนนเลียบคลองชลประทาน ให้กรมทางหลวงชนบทรับสัมปทานไป ซึ่งการก่อสร้างถนนเลียบคลองนั้น สร้างจากดินเหนียว และสร้างไว้เพื่อการสัญจรเพื่อการเกษตร ทั้งนี้เมื่อประเทศพัฒนามากขึ้น ก็ได้มีรถยนต์และรถบรรทุกใช้ถนนเลียบคลองเพิ่มมากขึ้น จนทำให้มีน้ำหนักกดทับและเกิดการสไลด์ของหน้าดิน และเมื่อเกิดเหตุภัยแล้งน้ำในคลองก็ไม่มีแรงดันไปดันหน้าดินจนทำให้เกิดปัญหาถนนทรุด ที่ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ความเสียหายอย่างมาก