กรมทางหลวงชนบท จัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน แก้ไขป้องกันการทรุดตัวของถนนคันคลองชลประทาน โดยมีนายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะผู้บริหารกรมทางหลวงชนบทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม นายดรุน เปิดเผยว่า การทรุดตัวของถนนคันคลองชลประทาน ในเบื้องต้นได้แก้ไขถนนที่ทรุดตัว โดยได้เร่งดำเนินการคืนผิวจราจรเป็นการชั่วคราวให้กับประชาชนภายใน 7-10 วัน ปัจจุบันในเขตจังหวัดปทุมธานีมีถนนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 10 สาย เป็นระยะทางกว่า 6.2 กิโลเมตร เฉพาะเส้นเลียบคลองรพีพัฒน์ จำนวน 3 เส้นทางระยะทาง 2.3 กิโลเมตร โดยกรมได้ติดตั้งป้ายเตือน กรวย แบริเออร์คอนกรีต ไฟกระพริบ เพื่อความปลอดภัยทั้งกลางวันและกลางคืน รวมทั้งเร่งทำการขุดลอกถนนส่วนที่เสียหายออก 2-3 เมตร เพื่อลดน้ำหนักกดทับที่อาจทำให้ถนนทรุดตัวเพิ่มขึ้นได้ จากนั้นได้ปูผิวชั่วคราว และเร่งคืนผิวจราจรเป็นการถาวร โดยเจาะสำรวจดินเพื่อนำมาออกแบบปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ถนนมีความมั่นคงถาวร เช่น การใช้เสาเข็มเป็นการถ่ายน้ำหนักลงสู่ขั้นดิน หรือใช้วิธีอื่นที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
เบื้องต้นกรมได้ของบแปรญัตติในปี 2559 จำนวน 700 ล้านบาท ในการซ่อมแซมถนนที่มีการทรุดตัวและได้ขอรับงบประมาณในส่วนของการป้องกันถนนที่มีความเสี่ยงสูงและจะทรุดตัวในอนาคต จำนวน 150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสำรวจวิเคราะห์ข้อมูลดิน และนำไปใช้ในการออกแบบถนนที่มีความเสี่ยงระยะทาง 750 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทรุดตัวต่อไป
อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ยังได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันถนนที่ยังไม่เกิดการทรุดตัว ดังนี้ ออกประกาศลดน้ำหนักรถบรรทุก 10 ล้อที่วิ่งผ่านคลองชลประทาน รวมทั้งได้จัดตั้งหน่วยชั่งน้ำหนักยานพาหนะในพื้นที่เสี่ยง / เร่งเจาะสำรวจดินของถนนที่อยู่ในความเสี่ยงทุกสาย เพื่อออกแบบปรับปรุงการเคลื่อนตัวของคันทาง / ทำแผนปรับปรุงถนนต่าง โดยจัดลำดับความเร่งด่วนตามความเสี่ยง / บูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมชลประทาน อำเภอ จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้จัดการเรื่องการขุดคลองและรักษาระดับน้ำในคลอง / สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนที่อาศัยตามคันคลองให้ช่วยกันดูแลการแตกร้าวของถนน