เจ้าหน้าที่กองสถานที่ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล ได้ทำการอัญเชิญรูปปั้น “องค์นรสิงห์จำลอง” ที่ตั้งสักการะบูชาอยู่ที่ตึกแสงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ระหว่างทางเชื่อมกับตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำกลับไปตั้งสักการะบูชา ที่บริเวณระเบียงด้านหน้า ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า เหมือนสมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี
เจ้าหน้าที่ฯได้อุ้มอัญเชิญ รูปปั้น “องค์นรสิงห์จำลอง”ขึ้นรถสีตู้เบนส์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1ขช4268 กทม. เคลื่อนไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า ท่ามกลางท้องฟ้าครึ้ม แดดไม่แรง
ก่อนการอัญเชิญได้มีพรหมณ์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูฤกษ์งามยามดีก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมวมหาดไทย มีดำริให้อัญเชิญ รูปปั้น “องค์นรสิงห์จำลอง” กลับที่ตั้งเดิม
จากนั้น เวลา 12.49 น. นายอนุทิน ได้ถอดสูท สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว อุ้มอัญเชิญ “องค์นรสิงห์จำลอง”ตั้งไว้ที่ฐานเดิม พร้อมสักการะและถ่ายภาพ ร่วมกับนางสาว ธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา ข้าง “องค์นรสิงห์จำลอง
สำหรับองค์นรสิงห์จำลอง นี้ ได้สร้างขึ้นในสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยให้โรงหล่อจัดทำขึ้นและนำมามอบให้เพื่อสักการะบูชา ตั้งแต้ต้นปี 2564 ซึ่งรูปปั้นองค์นรสิงห์มีความเชื่อตำนานพราหมณ์เล่าว่า นรสิงห์เป็นปางหนึ่งที่พระนารายณ์อวตารลงมาปราบอสูรร้าย
สำหรับองค์นรสิงห์ดั้งเดิม ซึ่งเป็นของต้นตระกูล พึ่งบุญ ณ อยุธยา นั้น (เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ) ได้รับพระราชทานที่ดินแปลงดังกล่าวจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6) ปัจจุบันอยู่ในการดูแลเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของตำนานบ้านนรสิงห์
องค์นรสิงห์ หรือนรสีห์ เป็นคำสันสกฤต เป็นอวตารร่างที่ 4 ของพระนารายณ์ตามเนื้อเรื่องในคัมภีร์ปุราณะของศาสนาฮินดู มีร่างกายท่อนล่างเป็นมนุษย์ และร่างกายท่อนบนเป็นสิงโต นรสิงห์เป็นผู้สังหารหิรัณยกศิปุ อสูรตนหนึ่งได้รับพรจากพระพรหมว่าจะไม่ถูกสังหารโดยมนุษย์ หรือสัตว์
พระนารายณ์ได้อวตารเป็นนรสิงห์ เพื่อสังหารหิรัณยกศิปุโดยใช้กรงเล็บฉีกอกเขาที่บริเวณกึ่งกลางบานประตู ในช่วงเวลาโพล้เพล้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่กลางวันและกลางคืน และเป็นการกระทำที่ไม่ได้มาจากมนุษย์หรือสัตว์ ทำให้พรของหิรัณยกศิปุไม่มีผล
#องค์นรสิงห์จำลอง