พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) (International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center : Warroom IAC) นำคณะเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ นานาชาติและองค์กรชั้นนำระหว่างประเทศลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อชี้ที่ตั้งของอาคารคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในฝั่งกัมพูชา โดยลงพื้นที่เท้าผ่านไร่ของชาวบ้านซึ่งเป็นหนึ่งใน 33 จุดของ จ.จันทบุรี ที่มักมีการลักลอบข้ามชายแดนจากกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทย
นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี บอกว่าอาคารหลังนี้เป็นอาคารที่ทำการคอลเซ็นเตอร์ มีที่พักของพนักงานอยู่ภายใน มีการกั้นรั้วและมีเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามอย่างแน่นหนา แม้แต่เจ้าหน้าที่ของกัมพูชาเองก็ยังไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ได้ หากไม่มีการขออนุญาตล่วงหน้าก่อน 2-3 วัน
พล.ต.อ.ธัชชัย เพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบล่าสุด ฝั่งตรงข้าม จ.จันทบุรีและตราด มีจุดต้องสงสัยไม่ต่ำกว่า 18 แห่ง มีบุคคลหลายสัญชาติ ทั้งจีน เวียดนาม และไนจีเรียถูกหลอกลวงไปทำงาน ขณะที่ประเทศไทยถูกใช้เป็นทางผ่านและถูกลักลอบใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตในการนำไปหลอกลวงผู้เสียหาย จึงมีการใช้มาตรการเข้มงวดในการตัดโครงสร้างพื้นฐาน ควบคุมการใช้ซิมการ์ดและการเปิดบัญชีธนาคาร นอกจากนี้ ยังมีการทำงานร่วมกับหลายประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก โดยญี่ปุ่นประกาศสนับสนุนด้านเครื่องมือและเงินทุนเสริมให้ศูนย์ประสานงาน
พล.ต.อ.ธัชชัย ย้ำว่าการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่เพียงปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ แต่ยังเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ โดยมีทั้งผู้ถูกหลอกและถูกบังคับให้ทำงานอยู่ในเครือข่าย จึงต้องเร่งยืนยันจุดตั้งแก๊งเพื่อช่วยเหลือเหยื่อและสกัดการกระทำผิดอย่างทันท่วงที ซึ่งทุกประเทศเห็นพ้องร่วมมือกับไทย เพื่อสร้างมาตรการกดดันกัมพูชาและดำเนินการร่วมกันในระดับภูมิภาค โดยหวังลดปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ส่งผลกระทบกว้างขวางต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของหลายประเทศ
...
#ชายแดนไทยกัมพูชา
#แก๊งคอลเซ็นเตอร์
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ