กรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชามีแถลงการณ์กรณีการขยายชุมชนบุกรุกพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่าแถลงการณ์ของฝ่ายกัมพูชามีข้อมูลในลักษณะบิดเบือนในหลายประการ ยืนยันว่า การบังคับใช้กฎหมายไทยกับพลเมืองกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงที่บ้านหนองจาน และหนองหญ้าแก้ว เป็นการดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
ตลอดห้วงเวลาการหยุดยิง ประเทศไทยได้ปฏิบัติมาตรการอย่างเคร่งครัด แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาที่ปลุกปั่นประชาชนเข้ามาประท้วง ถือเป็นการยั่วยุ และละเมิดต่อกฎหมายไทยในหลายมาตรา
ประเทศไทยมีการประท้วงการสร้างชุมชนรุกล้ำประเทศไทย ละเมิด MOU 2000 อย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายกัมพูชาที่ไม่แก้ไขและยังขยายพื้นที่เพิ่ม ย้ำว่าพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่พิพาทหรือพื้นที่อ้างสิทธิตาม MOU 2000 แต่เป็นเขตแดนไทยที่ชัดเจน จึงไม่จำเป็นต้องใช้กลไก JBC แก้ไขปัญหา และฝ่ายไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นต่อมาตรการหยุดยิง ตามที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย–กัมพูชา (GBC) เมื่อ 7 ส.ค.68 และ 10 ก.ย. 68 ได้มีมติร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามมาตรการด้วยความจริงใจและสำนึกในความรับผิดชอบร่วมกัน
ส่วนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาพบการติดตั้งเครื่องแอนตี้โดรนจำนวน 3 จุด บริเวณช่องกร่าง ตรวจพบสัญญาณการบินของโดรนจำนวน 2 ครั้ง เหนือเนิน 527 ตรวจพบรถบัสต้องสงสัย 1 คัน คาดว่าเป็นการลำเลียงกำลังพลเพิ่มเติมเข้ามาในพื้นที่ และยังพบการปรับปรุงฐานที่มั่นในบางจุดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
....
#ชายแดนไทยกัมพูชา
#กองทัพบก