กัมพูชาส่งหนังสือตอบไทย ยอมรื้อบ้านเพียง 1จาก2 หลัง กลบคูเลตในพื้นที่พิพาท

วันนี้, 15:48น.


          กัมพูชาส่งหนังสือตอบไทย ยอมกลบคูเลตในพื้นที่พิพาท รื้อบ้าน 1 หลัง จากที่ไทยเสนอให้รื้อ 2 หลัง แต่ปฏิเสธไม่รื้อบ้าน 2 หลัง ในสวนยางพารา อ้างหลักเขตแดนยังไม่ชัดเจน โยน JBC ชี้ขาด 



          กองป้องกันชายแดนที่ 501 ภูมิภาคทหารที่ 5 ส่งหนังสือตอบกลับข้อเสนอจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด อย่างเป็นทางการ หลังการประชุมระดับพื้นที่เมื่อวันที่ 19 ก.ย.68 ที่ผ่านมา โดยยอมรื้อถอนบ้าน 1 หลัง และแก้ไขคูสนามตามข้อเรียกร้อง แต่ปฏิเสธที่จะรื้อบ้านประชาชนอีก 2 หลัง ในสวนยางพารา โดยระบุให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในการพิจารณา โดยเอกสารดังกล่าว ลงวันที่ 22 ก.ย.68 และลงนามโดย พันเอก จัน บุนดี ผู้บังคับกองป้องกันชายแดนที่ 501 ภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพกัมพูชา ส่งถึง นาวาเอก ภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เพื่อตอบประเด็นจากการประชุมหารือระหว่างรองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 กัมพูชา และเสนาธิการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดของไทย ณ จุดตรวจร้อย.ทพ.นย.531 บ้านท่าเส้น จ.ตราด 



           เนื้อหาในหนังสือระบุถึงข้อเสนอ 3 ข้อ ที่ฝ่ายไทยได้ยื่นต่อฝ่ายกัมพูชา และการพิจารณาตอบกลับของฝ่ายกัมพูชา ข้อเสนอที่ 1 ปัญหาบ้าน 5 หลัง ที่โอร์พลุกด็อมเรย ไทยเสนอให้ฝ่ายกัมพูชารื้อถอนบ้าน จำนวน 2 หลังออกจากพื้นที่ดังกล่าว บริเวณจุดที่ 11 พิกัด TU(50640-45701) ฝ่ายกัมพูชา เห็นชอบให้ทำการรื้อถอนบ้านจำนวน 1 หลัง ตามข้อเสนอของฝ่ายไทยที่ให้รื้อ 2 หลัง



          ข้อเสนอที่ 2 ปัญหาแนวคูสนามของจุดตรวจตำรวจตระเวนชายแดน ช่องทางเจยจุมเนียะ (จอมวย) ไทยเสนอ ให้ฝ่ายกัมพูชากลบคูสนามดังกล่าว เพื่อให้พื้นที่กลับสู่สภาพเดิม บริเวณจุดที่ 15 พิกัด TU (51601-52015) กัมพูชา ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงด้านเทคนิคคูสนามของจุดตรวจดังกล่าวตามข้อเสนอของฝ่ายไทย



          ข้อเสนอที่ 3 ปัญหาบ้านประชาชน 2 หลัง ในสวนยางพารา ไทยเสนอ ให้ฝ่ายกัมพูชารื้อถอนบ้านทั้ง 2 หลัง บริเวณจุดที่ 16 พิกัด TU (51745-52744) กัมพูชา ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าบ้านดังกล่าวเป็นของประชาชน และเนื่องจากปัญหาเขตแดนยังไม่มีความชัดเจน จึงเสนอให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เพื่อพิจารณาแก้ไขในโอกาสต่อไป



          หนังสือทางการกัมพูชา ระบุว่า ปัญหาที่ฝ่ายไทยเสนอล้วนเป็นปัญหาเก่าที่ยังคั่งค้าง และเนื่องจากรัฐบาลทั้งสองประเทศได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ขึ้นมาแล้ว ดังนั้นปัญหาที่ยังไม่มีความชัดเจนจึงสมควรให้เป็นหน้าที่ของ JBC เป็นผู้แก้ไขตามกฎหมายของทั้งสองประเทศ



          ทั้งนี้ เอกสารยังได้ย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ ที่มีการติดต่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและร่วมมือแก้ไขปัญหาโดยยึดหลักสันติวิธีมาโดยตลอด โดยหนังสือฉบับนี้ได้ถูกส่งต่อเพื่อให้ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดได้รับทราบต่อไป



 

ข่าวทั้งหมด

X