เจ้าหน้าที่เดนมาร์ก เปิดเผยว่า เดนมาร์กสั่งปิดสนามบินอัลบอร์ก (AAL)ทางภาคเหนือของประเทศ 3 ชม.เมื่อคืนนี้(24 ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 21.44น. หลังพบโดรนหลายลำบินอยู่ในน่านฟ้าเดนมาร์กโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เครื่องบินโดยสาร 3 ลำต้องเปลี่ยนไปลงจอดที่สนามบินอื่นๆซึ่งอยู่ใกล้เคียงคือ เมืองคารุปและกรุงโคเปนเฮเกน
เบื้องต้น ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าใครเป็นเจ้าของโดรนและมีเหตุจูงใจอะไร ทั้งไม่ปฏิเสธข้อสันนิษฐานว่า การส่งโดรนบินเข้าใกล้สนามบินอาจจะเป็นลักษณะการเล่นพิเรนทร์ของเจ้าของโดรนบางรายและอาจจะเป็นไปได้ที่เป็นโดรนจากรัสเซีย แต่ที่ผ่านมา นายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูลความจริง
ส่วนสนามบินขนาดเล็กอีก 3 แห่งทางภาคใต้ของประเทศคือ สนามบินเมืองเอสบีเยร์,เมืองซันเดอร์เบิร์กและเมืองสครีดสตรัป เจ้าหน้าที่พบโดรนบินใกล้ๆกับสนามบินเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีการสั่งปิดสนามบิน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังมีการสั่งปิดสนามบินกรุงโคเปนเฮเกน สนามบินหลักของประเทศราว 4 ชม.เมื่อคืนวันจันทร์(22 ก.ย.)ตั้งแต่เวลา 20.26 น.ตามข้อมูลจาก FlightRadar ซึ่งเป็นบริการติดตามเที่ยวบิน หลังพบโดรน 2-3 ลำบินใกล้ๆกับสนามบิน ทำให้เครื่องบินอย่างน้อย 35 ลำ ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินอื่นๆในเดนมาร์กและสวีเดน
ก่อนหน้านี้ เอสโตเนียและโปแลนด์ขอให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)เรียกประชุมฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อหารือแนวทางการตอบโต้ หลังพบโดรนจากรัสเซียล้ำน่านฟ้า
#เดนมาร์ก
#ปิดสนามบิน
#โดรนไม่ทราบฝ่าย
ทื่มา: bbc