ทางการฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นเป็นระดับ 10 แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ซึ่งหมายความว่ามีการคาดการณ์ว่าพายุลูกนี้จะมีความเร็วลมเฉลี่ย 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สั่งปิดโรงเรียนและขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย โดยคาดการณ์ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลงอย่างรวดเร็วในช่วงกลางคืน ขณะที่เที่ยวบินอย่างน้อย 700 เที่ยวบินถูกยกเลิกเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายนี้แล้วและคาดว่าสนามบินนานาชาติฮ่องกงจะกลับมาให้บริการตามปกติอีกครั้งในวันพฤหัสบดี
นอกจากนี้ยังมีการเตือนถึงคลื่นลมแรงและคลื่นซัดฝั่งอย่างรุนแรง ขณะที่พายุเคลื่อนตัวผ่าน โดยบางพื้นที่อาจมีคลื่นสูงกว่าปกติ 4-5 เมตร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฮ่องกงยังรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 5 คน จากดินถล่มและต้นไม้หักโค่น
เช่นเดียวกับที่เมืองเซินเจิ้นของจีน อาคารห้างร้านต่างๆ ถูกเสริมความแข็งแรงและวางกระสอบทรายกั้นไว้โดยรอบเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ประชาชนเร่งกักตุนอาหารและสิ่งของจำเป็นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นรากาซาที่คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งตามแนวชายฝั่งของมณฑลกวางตุ้ง ระหว่างเมืองจูไห่และจ้านเจียงภายใน 24 ชั่วโมง
ขณะที่ทางการจีนเตือนว่าอาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งได้สูงถึง 5 เมตรและยังสั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจในอย่างน้อย 10 เมือง ในพื้นที่ตอนใต้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ในมณฑลกวางตุ้งอพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยงไปแล้วมากกว่า 370,000 คน
ส่วนที่ไต้หวัน ภาพจากล้องวงจรปิดบันทึกภาพนาทีที่หญิงคนหนึ่งกอดเสาเอาไว้แน่นเพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่ไหลทะลักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาพนี้ถูกบันทึกไว้ได้ที่ตลาดแห่งหนึ่งในเมืองฮวาเหลียน ทางตะวันออกของไต้หวัน ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพนาทีมวลน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาซัดสะพานจนพังถล่มไปต่อหน้าต่อตา โดยเกิดขึ้นหลังจากพื้นที่ดังกล่าวเผชิญฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นรากาซาที่เคลื่อนตัวผ่านช่องแคบลูซอน ทางตอนใต้ของเกาะเมื่อวันจันทร์ มวลน้ำไหลเชี่ยวกรากยังพบเห็นได้ในอีกหลายจุด โดยเฉพาะที่เมืองฮวาเหลียน ซึ่งถนนในเมืองแปรสภาพเป็นแม่น้ำ โดยกระแสน้ำพัดเอาเศษขยะ รวมถึงรถเข็นพัดลอยไปตามน้ำด้วย
รัฐบาลไต้หวันอพยพประชาชนกว่า 7,600 คนไปยังที่ปลอดภัย ขณะที่ความรุนแรงของพายุลูกนี้ส่งผลให้มีผู้สูญหายไปแล้วอย่างน้อย 30 คน บาดเจ็บ 28 คน และเสียชีวิตอีก 2 คน ท่ามกลางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ส่วนที่ฟิลิปปินส์ ปรากฏภาพความเสียหายในหลายจุด หลังจากได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้โดยตรง เนื่องจากพายุพัดถล่มพื้นที่ตอนเหนือของประเทศตั้งแต่ช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ประชาชนกว่า 24,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 คน และสูญหายอีกจำนวนหนึ่ง