นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส แห่งกรีซ กล่าวปกป้องการบรรลุข้อตกลงเงินช่วยเหลืองวดที่ 3 กับกลุ่มเจ้าหนี้ หรือ ทรอยก้า โดยกล่าวว่า เป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดแล้วภายใต้สภาวะแวดล้อมปัจจุบันที่อยู่ในระดับเลวร้าย และจะทำให้กรีซยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโรต่อไป เพราะหากต้องออกจากกลุ่ม และกลับไปเงินสกุลเดิมของกรีซ เศรษฐกิจก็จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก อย่างไรก็ตามเขายืนกรานว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง เพราะต้องรับผิดชอบต่อการลงนามในข้อตกลงที่ตัวของเขาเองก็ไม่เชื่อถือ แต่เป็นความจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อให้มีผลบังคับใช้ และว่ารัฐสภาควรให้ความเห็นชอบมาตรการต่างๆ เหล่านี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของทางการกรีซเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งมีสาระโดยรวมเป็นการชี้แจงสาเหตุที่ทำให้ต้องยอมรับเงื่อนไขเงินกู้ฉบับนี้ ที่มีอยู่หลายข้อเป็นประเด็นที่เขาคัดค้านมาตลอด รวมถึงเป็นเงื่อนไขที่ชาวกรีกลงมติคัดค้านไปเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเขากล่าวว่า เงื่อนไขที่ปรากฏอยู่ในข้อตกลงนั้น ทางฝ่ายเจ้าหนี้ยอมผ่อนปรนลงมาแล้ว แต่ส่วนตัวก็ยังมองว่าเป็นความพยายามของเจ้าหนี้ที่จะแก้แค้น
นายกรัฐมนตรีกรีซ ระบุว่า ในเงื่อนไขข้อที่เจ้าหนี้ต้องการให้ลดเงินบำนาญที่เขาคัดค้านมาตลอดนั้น เจ้าหนี้ยอมรอมชอมลงมาในระดับหนึ่งแล้ว และยอมรับว่า หลายประเทศอาทิ ฟินแลนด์และเนเธอร์แลนด์ไม่ได้ต้องการให้กลุ่มเจ้าหนี้มอบเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ แต่ในที่สุดแล้วทั้ง 2 ประเทศก็ต้องยอมรับข้อตกลงฉบับนี้เช่นกัน ผลจากการลงนามในข้อตกลงเงินกู้งวดที่ 3 ยังทำให้นายกรัฐมนตรียังต้องเผชิญแรงกดดันจากพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคซีรีซาที่เป็นพรรครัฐบาลของเขาเอง แต่นายกรัฐมนตรีก็ยืนยันที่จะทำงานจนครบวาระ 4 ปี
โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซ ยังต้องนำมาตรการต่างๆ ตามข้อตกลงฉบับนี้เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจกรีซจะยิ่งเลวร้ายกว่านี้หากไม่ยอมรับข้อตกลง
..F163..