ในการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้สั่งการเรื่องนโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริตกรณีรายชื่อข้าราชการที่อาจมีส่วนพัวพันการทุจริตทั้ง 2 ครั้ง โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ข้าราชการชั้นซี 8 จนถึงระดับผู้ใหญ่ โดยมีการใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 มีการปรับย้ายให้มาทำงานในส่วนกลางโดยมีการเปิดตำแหน่งพิเศษรองรับ ส่วนข้าราชการระดับกลางและระดับล่างไม่ได้มีการโยกย้ายยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมเนื่องจากไม่มีผลต่อการสืบสวนคดี นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ โดยในส่วนของข้าราชการระดับผู้ใหญ่ไม่ให้รีบร้อนในการสอบสวนพยานหลักฐานจนทำให้ตกหล่นเรื่องสำคัญ แต่ขณะเดียวกันให้หน่วยงานต่างๆที่ทำหน้าที่สอบสวนข้อมูลเข้าใจสถานการณ์ว่าชักช้ามากไม่ได้เพราะจะเกิดข้อครหาในการใช้เวลานานเกินไป ส่วนข้าราชการระดับกลางและระดับล่างปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานต้นสังกัดในการเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงและรายงานให้ทราบต่อไป
ส่วนที่มีการแจ้งข้อมูลมีเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องหลายคน ทำให้การตั้งคณะกรรมการสอบสวนไม่เพียงพอ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงมีมติแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว โดยใช้คณะกรรมการสอบสวนเพียงคณะเดียวและดำเนินการกับฐานข้อมูลกับบุคคลที่อยู่ในฐานข้อมูลเดียวกัน
พล.ต.สรรเสริญ ยังได้กล่าวอีกว่าขณะนี้มีการดำเนินการจัดทำข้อมูลสำรวจทัศนคติประชาชนต่อการปฏิบัติงานของ คสช.และรัฐบาล ทั้งความพึงพอใจ ปัญหาข้อขัดข้องและสิ่งที่ประชาชนต้องการและไม่ต้องการ และมีการส่งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้นำข้อมูลส่งให้กระทรวงต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น พร้อมสั่งให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามข้อมูลที่มีการสำรวจได้ รวมถึงหาข้อยุติและตอบสนองต่อความต้องการต่อประชาชน นอกจากนี้ยังต้องชี้แจงข้อมูลต่อประชาชนที่มีความเข้าใจคาดเคลื่อน และขยายผลสิ่งที่ประชาชนเข้าใจถูกต้อง