หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ มีวาระการประชุมเรื่องการรับมือภัยแล้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่าปัญหาภัยแล้งและภาวะขาดแคลนน้ำว่า จะต้องลดความเดือดร้อนให้ประชาชนให้เดือดร้อนน้อยที่สุด ยอมรับว่าเกษตรกรได้รับผลกระทบมากและพื้นที่ทำการเกษตร เสียหายซึ่งรัฐต้องเยียวยา และขณะนี้ไม่มีน้ำเหลือทำการเกษตรแล้ว น้ำที่มีเพื่อใช้เฉพาะอุปโภคบริโภค น้ำที่มีอยู่ทั้งหมดขณะนี้เหลือเพียงน้ำในเขื่อนหลักๆซึ่งต้องปล่อยน้ำให้น้อยลงเพื่อให้พอใช้ถึงกลางเดือนสิงหาคม ส่วนอ่างเก็บน้ำอื่นๆก็มีแต่อ่างหรือฝ้ายแต่ไม่มีน้ำต้นทุนเหลือจากที่ใดแล้ว ส่วนการจะไปผันน้ำจากแม่น้ำโขงหรือสาละวิน มานั้น ก็คงทำไม่ได้ เพราะอาจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้จำเป็นต้องลดการปล่อยน้ำลง
นายกรัฐมนตรียังระบุว่ายังไม่นับรวมว่าฝนจะตกมาหรือไม่ ถ้าฝนไม่ตกมาในช่วงสิงหาคมก็คงเดือดร้อนกว่านี้ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ต่างๆทุกด้านเป็นระยะ ยอมรับว่ามีผลกระทบการเกษตรมาก ซึ่งรัฐบาลก็จะหามาตรการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ซึ่ง ขอให้เกษตรกรให้ความร่วมมือว่าอย่าทำเกษตร และให้ร่วมมือกับรัฐบาลไปแนวเดียวกันและอย่าประท้วงยืนยันว่าจะหาทางช่วยเกษตรกรเต็มที่แต่การจ้างงานเกษตรกรมาต้องไม่กระทบกับการจ้างงานส่วนอื่นด้วย
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว นายกรัฐมนตรีระบุว่าวางแผนไว้อยู่แล้วต้องทำเป็นขั้นตอน แต่ก็มีติดขัดเรื่องงบประมาณและการแก้ปัญหาในการหาแหล่งน้ำเพิ่มก็ไม่สามารถทำเสร็จได้ภายในสองสามวัน นอกจากนี้ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปชี้แจงความจำเป็นและสถานการณ์น้ำแล้ว
ส่วนกรณีที่อดีตนักการเมืองออกมากล่าวถึงเรื่องน้ำนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าขอให้ตัดสินใจเอาเองว่าจะเชื่อหรือไม่ ไม่อยากก้าวก่ายความคิดและเป็นสิ่งที่ประชาชนคงรับฟังได้พร้อม ปฏิเสธว่าไม่มีแนวคิดตั้งกระทรวงน้ำ เพราะเชื่อว่าหน่วยงานที่มีอยู่ดีอยู่แล้วและขอให้หน่วยงานเดิมทำงานได้ทำงานก่อนจะดีกว่า