เมืองไทยฯ(2):ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตในประเทศเพิ่มขึ้น/ยุโรปสนใจลงทุนธุรกิจการบินโลจิสติกส์/ครูน้อยปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก

14 กรกฎาคม 2558, 08:30น.


ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานตัวเลขการให้บริการบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ภายใต้การกำกับ (นอนแบงก์) เมื่อถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอมผู้ปกครองมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทบัตรเครดิตหลายแห่งจัดโปรโมชั่นต่างๆ โดยมียอดการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 130,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่มียอดการใช้จ่ายรวม 128,563 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในประเทศ ขณะที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในต่างประเทศปรับลดลง เนื่องจากคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศลดลง ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิต จนถึงสิ้นเดือนเมษายน.มียอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตในระบบ 293,637 ล้านบาท



เมื่อวานนี้ สมาคมการค้าไทย-ยุโรป (Thai-European Business Association) หรือ TEBA เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อแสดงเจตนาลงทุนในประเทศไทย และเพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง จึงได้ตกลงตั้งคณะทำงานร่วมกันขึ้นมา 2 ชุด ทั้งด้านธุรกิจการบินโลจิสติกส์และธุรกิจยานยนต์ โดยได้มอบหมายให้นายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย โดยยุโรปมีความสนใจการลงทุนด้านอุตสาหกรรมการบิน เพราะมองว่าธุรกิจการบินในเอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตขึ้นมาก แต่ยังกังวลเรื่องกฎระเบียบการลงทุน ขั้นตอนการยื่นเอกสาร ไปจนถึงความปลอดภัยทางถนน ความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่ง



กระทรวงพาณิชย์ เตรียมหารือเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ ระหว่างไทยกับออสเตรเลียรอบใหม่ ใน 4 ประเด็น ได้แก่ การเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่มีมาตรการป้องกันพิเศษ (SSG) การเปิดตลาดการค้าบริการ การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐและนโยบายการแข่งขันสินค้าที่มีมาตรการปกป้องพิเศษ ซึ่งควรจะดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551



กรมประมง เปิดเผยว่า สำนักงานประมงจังหวัดชายทะเล 22 จังหวัด แจ้งว่าสถานการณ์โดยทั่วไปเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เรือประมงเริ่มออกทำการประมงหรือเตรียมออกทำการประมงมากขึ้น เว้นในพื้นที่ที่ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยการแจ้งเข้า-ออก เรือประมง ณ ศูนย์ POPO พบว่ามีเรือประมงขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปมีการแจ้งเข้า-ออก มากขึ้น



สำหรับเรือประมงที่ยังหยุดทำการคือเรือที่ยังไม่มีใบอนุญาต หรือมีใบอนุญาตยังไม่ครบถ้วน ส่วนใหญ่เป็นเรือที่ใช้เครื่องมืออวนลากทำการประมงปลากะตัก ซึ่งจะต้องเปลี่ยนเครื่องมือ



กรณีอัยการญี่ปุ่นไม่สั่งฟ้องพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ขณะกำลังจะขึ้นเครื่องกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ซึ่งหลังจากที่อัยการญี่ปุ่นไม่สั่งฟ้องแล้ว ก็ส่งตัวไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโตเกียว ทั้งนี้อัยการให้ยึดปืนนอร์ทอเมริกันอาร์ม ขนาด.22 และห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี



ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 (ผบช.ภ.1) เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องการพกพาอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินเดินทางออกจากประเทศไทย



นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และทนายความชื่อดัง กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นมีหลักฐาน และสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าปืนกระบอกนี้ถูกนำขึ้นไปบนเครื่องบินขาออกจากประเทศไทย ดังนั้นไม่ว่าจะผ่านไปได้อย่างไร จะเล็ดลอดออกไปด้วยวิธีการใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจะต้องดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497  



ส่วนคดีฆาตกรรมนายสมยศ สุธางกูร อายุ 62 ปี อดีตเจ้าของสถานบันเทิง พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการผู้บังคับการกองปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากโดยทีมสืบสวนของกองปราบฯ กำลังเฝ้าจับตาซุ้มมือปืนและติดตามมือปืนที่ลงมือ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่ามือปืนอาจไม่ใช่คนในพื้นที่ และ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง



ยังมีความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า นอกจากการสร้างความมั่นใจเรื่องการรับบริการทางการแพทย์แล้ว ยังต้องเสริมมาตรการเฝ้าระวังโรคระบาด และกรณีการเจ็บป่วยฉุกเฉินด้วย โดยปัจจุบันมีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับบริการทางการแพทย์ปีละ 1 ล้าน 5 แสนคน



และเรื่องที่นางนวลน้อย ทิมกุล หรือครูน้อย เตรียมปิดสถานเลี้ยงเด็กยากจนบ้านครูน้อยภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เนื่องจากไม่สามารถรับภาระดูแลเด็กซึ่งมีอยู่ 65 คน และต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงวันละกว่า 6,000 บาท ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มอบให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ไปพูดคุยกับครูน้อยแล้ว ซึ่งตามระเบียบปฏิบัติหากเด็กไม่มีผู้ปกครองหรือผู้อุปการะก็ต้องรับมาอยู่ในความดูแลของกรม



ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยลดจำนวนกลุ่มสาระการเรียนรู้จาก 8 กลุ่มเหลือ 5 กลุ่ม และขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 นั้น พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ต้องหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และนำไปหารือในที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพิจารณาปรับปรุงหลักสูตรมาโดยตลอด แต่ไม่ใช่การปรับทุกวิชา ทุกกลุ่มสาระฯ ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้การปรับหลักสูตรแต่ละครั้ง ก็จะต้องปรับคุณภาพครู ให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ



*-*

ข่าวทั้งหมด

X