*นายกฯเผย พุธนี้ ส่งเลขาฯสมช. ติดตามความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปจีน

หลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือสมช. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  กล่าวถึงการส่งกลับ ชาวอุยกูร์ พบว่ายังมีเหลืออยู่ในไทยประมาณ 50กว่าคน ซึ่งต้องดูแลไปก่อนและพยายามจัดการให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องการให้ผู้ใดมากดดันรัฐบาลและรัฐบาลเองก็ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับผู้ใด ยืนยันอีกครั้งว่าไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งและการส่งตัวหรือการคัดแยกก็เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ในวันพุธนี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่ชาติหรือ สมช.จะเดินทางไปพูดคุยกับจีนและดูถึงความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ในจีนว่าได้รับการปฎิบัติตามที่จีนกล่าวไว้หรือไม่

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า จีนได้แจ้งความผิดของชาวอุยกูร์มาก่อนแล้ว แต่ไม่ใช่ฐานก่อการร้าย ซึ่งไทยก็ควบคุมตัวไว้ในฐานะผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและได้คัดแยกตามกระบวนการและส่งไปให้ตามสัญชาติที่คัดไว้ โดยมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และทุกประเทศเองก็ควรดูแลช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อีกฝ่ายในประเทศด้วย ขณะเดียวกันยืนยันว่าไทยเคารพสิทธิมนุษยชนและทำตามกฎหมาย พร้อมเชื่อว่าไม่ได้ทำกระทบผู้ใด นายกฯระบุด้วยว่าขณะนี้ไทยยังมีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยทางสงครามที่อยู่ในไทยกว่า140,000คนซึ่งก็ยังไม่มีองค์กรใดมาตรวจสอบ

สำหรับการประชุมในวันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าววา  เป็นการหารือถึงยุทธศาสตร์การข่าวกรองที่ต้องสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านชายแดน รวมทั้งเป็นการกำหนดแผนบริหารยุทธศาสตร์ชายแดนในอีก 5 ปีข้างหน้าที่จะต้องประเมินสถานการณ์ต่างๆทั้งในและนอกประเทศควบคู่ไป โดยรัฐบาลถือว่าความมั่นคงเป็นงานหลักในประเทศและต้องเพิ่มความเข้มแข็งต่างๆโดยรัฐบาลต้องมีส่วนร่วมด้วย และสิ่งที่รัฐบาลทำนี้ไม่ได้เพื่อสืบทอดอำนาจ