ติดตามการรับมือภัยแล้งต่อเนื่อง วันนี้คณะอนุกรรมการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำจะประชุมวิเคราะห์สถานการณ์ทุกด้านเพื่อเสนอแนวทางให้รัฐบาลตัดสินใจ
สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดปทุมธานีที่วิกฤติหนัก ถึงขั้นที่การประปาภูมิภาคสาขาธัญบุรีต้องหยุดจ่ายน้ำประปาให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.ธัญบุรี ตั้งแต่คลอง 5 ถึงคลอง 15 อำเภอลำลูกกา และอำเภอหนองเสือทั้งอำเภอเพราะไม่มีน้ำจากคลอง 13 มาเป็นน้ำดิบผลิตน้ำประปา จึงต้องขอความช่วยเหลือจากเทศบาลและองค์การบริหารท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อนำน้ำมาแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี แจ้งขอผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ลงคลองหนึ่ง เพื่อให้มีน้ำไหลไปยังคลอง 13 รักษาระดับน้ำให้การประปาผลิตน้ำดิบได้ และแจ้งเตือนประชาชนสำรองน้ำไว้ใช้ โดยจังหวัดปทุมธานีประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้ง 3 อำเภอ คือ อ.หนองเสือ อ.ธัญบุรี และ อ.ลำลูกกา เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ สามารถนำงบประมาณไปให้การช่วยเหลือประชาชนทันทีและเร่งด่วน
ส่วนท่าทีของภาคอุตสาหกรรม นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนติดตามปัญหาภาวะภัยแล้งใกล้ชิด เพราะผลผลิตภาคเกษตร ที่จะตกต่ำลง และจะส่งผลไปถึงภาคการส่งออก ขณะที่ผัก ผลไม้ที่มีราคาสูงขึ้น ย่อมทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยและหัวหน้า สำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 กล่าวว่า ขณะนี้ชาวไร่อ้อยมีความวิตกกังวลราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 58/59 ที่มีแนวโน้มจะอยู่ในระดับ 700 บาทต่อตันซึ่งจะถือเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 7 ปีจากที่ปี 51/52 ราคาอ้อยเคยต่ำสุดที่ระดับ 635 บาทต่อตัน และหากราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกยังลดต่อเนื่องก็จะยิ่งกระทบต่อราคาอ้อยขั้นต้นให้ต่ำมากกว่านี้ได้อีก
ทั้งนี้ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) รายงานว่า บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย(อนท.) ยังไม่สามารถทำการขายน้ำตาลทรายฤดูการผลิตใหม่เพื่อการส่งออกล่วงหน้าได้เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกยังคงอ่อนตัวต่อเนื่องล่าสุดส่งมอบมีนาคม 2559 เฉลี่ย 13.33 เซ็นต์ต่อปอนด์ เฉลี่ยจะอยู่ระดับ 700 บาทต่อตัน
ส่วนกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ราคาผักสดหลายชนิดในเดือนกรกฎาคมขึ้นราคาสูงสุดในรอบ 4-5 ปี เช่นเดียวกับราคาขายปลีกไข่ไก่ก็ปรับขึ้นเช่นกัน ซึ่งเกิดจากอากาศที่ร้อนจัด
จากการต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ของสหรัฐให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งไทยออกไปอีก 4 ปี 5 เดือน (31 ก.ค. 2556-31 ธ.ค. 2560) ทำให้ไทยได้เปรียบคู่แข่งโดยเฉพาะจีน ที่ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ โดยผู้ส่งออกไทยสามารถขอใช้สิทธิส่งออกได้ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ซึ่งนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จะเน้นสินค้าสำคัญ 6 กลุ่ม คือ ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ สินค้าอาหารทะเลสด แช่เย็นแช่แข็ง สินค้าผัก/ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และอัญมณีและเครื่องประดับ เร่งใช้สิทธิเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มการส่งออก จากการฟื้นตัวของสหรัฐ โดยการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่ากว่า 9,862 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.98 โดยเป้าหมายการส่งออกไทยไปสหรัฐปี 2558 กำหนดการขยายตัวร้อยละ 3.1 หรือ 24,632 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนเรื่องการประมง นายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมงเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการดำเนินการแก้ไขปัญหา IUU และทำให้มีชาวประมงบางส่วนไม่สามารถออกทำการประมงได้ ส่งผลกระทบต่อปริมาณสินค้าอาหารทะเล การจ้างแรงงาน และอุตสาหกรรมประมง ทางกรมประมงจึงได้จัดตั้ง “ศูนย์เฉพาะกิจกรมประมงเพื่อติดตามสถานการณ์เรือประมง ชาวประมง และผลกระทบ” โดยมีการติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดให้บริการผู้ประกอบการเรือประมงที่ยังไม่มีเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งพบว่าสถานการณ์การหยุดทำประมงในหลายจังหวัดคลี่คลายลงแล้ว ในรอบสัปดาห์นี้จะมีเรือประมงทยอยออกไปทำการประมงมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามที่จ.สงขลาว่า แม้ขณะนี้จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะเรือประมงส่วนใหญ่ขอใบอนุญาตต่างๆ และปฏิบัติตามที่ทางการออกกฎควบคุม แต่กลับมีปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนี ทั้งบางคนยังเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว
ส่วนเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส , พื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา เมื่อคืนวันที่ 10 กรกฎาคมต่อเนื่อง วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 11 คนนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพบพฤติกรรมของคนร้าย 3 จุด ซึ่งรวมถึงการที่มีผู้ลักลอบนำระเบิดมาส่งให้คนร้าย
ด้านพล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในปาดังเบซาร์ ซึ่งพบว่าไม่มีการควบคุมรักษาความปลอดภัยเหมือนกับในเมืองใหญ่
ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นจะเบิกตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) นำส่งสำนักงานอัยการ เพื่อให้พนักงานอัยการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องและคาดว่าจะทราบผลการพิจารณาในช่วงบ่าย โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกจับที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในข้อหามีอาวุธปืนนอร์ทอเมริกันอาร์ม ขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุนซึ่งไม่มีเลขทะเบียน ขณะเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน จากนั้นถูกควบคุมตัวและฝากขังไว้ที่เรือนจำ
รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่าที่ประชุม กกอ. มีมติเห็นชอบโครงการสถาบันพันธุกรรมเฉพาะบุคคลและเวชพันธุรักษ์ระดับนานาชาติ หรือไอพีจีจี ซึ่งจะเป็นสถาบันระดับชาติ เหมือนกับศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการ ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นผู้ดำเนินการ ระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี (ปีงบประมาณ 2558-2562) ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยจะนำเสนอต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณา และเสนอ ขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อไป สำหรับสถาบันแห่งนี้จะเป็นสถาบันทางการแพทย์ด้านพันธุกรรมเฉพาะบุคคลและยีนบำบัด ซึ่งจะทำให้เรารู้สาเหตุของการเกิดโรค ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตรวจกรอง และตรวจวิเคราะห์ การผลิตยาและวัคซีนใหม่ การคิดค้นวิธีการรักษาใหม่ ๆ
ส่วนเรื่องการศึกษา นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีธนาคารออมสินออกมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยกรณีของครูที่เป็นหนี้นอกระบบ หากถูกข่มขู่คุกคามจากการติดตามทวงหนี้โดยมิชอบ สามารถร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ โดยในการประชุมของ คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จะมีการพิจารณายกเลิกการปล่อยกู้ ตามโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) เพราะปัจจุบันธนาคารต่างๆ แข่งขันปรับลด อัตราดอกเบี้ยปล่อยกู้เป็นปกติอยู่แล้ว โครงการนี้จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป
ยังมีเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษวัสดุการเกษตร เช่นข้าวเสื่อมคุณภาพ ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพลาสติก กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ทางสถาบันฯ กำลังจัดตั้งศูนย์พัฒนาคอมพาวด์และแปรรูปพลาสติกชีวภาพ เพื่อนำพลาสติกจากวัตถุดิบปิโตรเคมีมาผสมกับวัสดุที่ได้จากพืชธรรมชาติ เพื่อให้ได้เม็ดพลาสติกชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษ และเป็นการนำวัสดุการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตเม็ดพลาสติก และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษวัสดุการเกษตร โดยในเบื้องต้นวางแผนที่จะนำข้าวที่เสื่อมสภาพในสต็อกของรัฐมาเป็นส่วนผสมในเม็ดพลาสติก ซึ่งจะช่วยให้เม็ดพลาสติกถูกลงกว่าปกติที่มีราคาประมาณ 50 บาท/กก. อย่างไรก็ตาม วัสดุที่นำมาผสมในเม็ดพลาสติกจะต้องไม่ใช่พืชที่ใช้ทำอาหาร แต่จะมุ่งเน้นการนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด
*-*