*จับสมาชิกแก๊งพลอยแก้ว กระชากสร้อยก่อเหตุตั้งแต่ปี 56 ไม่ต่ำกว่า20ครั้ง*

11 กรกฎาคม 2558, 14:57น.


การแถลงผลการจับกุมตัวสมาชิกแก๊งพลอยแก้ว ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ พล.ต.อ. เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บางรัก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายวัยรุ่นอายุ 18 ปี 1ใน ผู้ต้องหาในคดีวิ่งราวทรัพย์ ก่อเหตุเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 08.45 น. ผู้ต้องหาคนที่ถูกจับได้ พร้อมเพื่อนอีกคนที่ยังหลบหนี ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ บริเวณปากคลองตลาด ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ สน.พระราชวัง ได้ทรัพย์สิน สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหนัก 1 บาท จำนวน 1 องค์ ราคาประมาณ 40,000 บาท



ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2558 เวลาประมาณ 08.46 น. ผู้ต้องหากลุ่มเดิมได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น มีโอสีดำ-น้ำตาล (ทอง) ล้อแม็กสีดำ ศอป 739 กทม. (ทะเบียนปลอม) ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น บริเวณหน้าโรงแรมมาร์ ถนนสุรวงศ์ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ สน. บางรัก ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามจับกุมคนร้าย พบว่า ผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนที่หลบหนี เป็นคนขับรถ และคนร้ายที่ถูกจับได้ เป็นคนซ้อนท้ายและกระชากสร้อยคอทองคำ โดยคนร้ายทั้งสองได้เป็นสมาชิกแก๊งพลอยแก้ว ซึ่งสามารถจับกุมสมาชิกได้ไปแล้ว 6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานขอข้อมูลจากจาก สน. ใกล้เคียง จนพบว่าคนร้ายดังกล่าวได้ตระเวนก่อเหตุหลายครั้ง ในเขตพื้นที่ บก.น. 6 และยังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาที่จับได้มีหมายจับในคดีของสน. ต่างๆ จำนวน 8 หมาย โดยหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 318/14 หมู่ 11 อ. บางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จับได้เมื่อวานนี้(10 ก.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้พาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด ฯ พร้อมของกลาง คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล (ทอง) หมายเลขทะเบียน 2กณ 3537 กทม. จำนวน 1 คัน เสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีขาว จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่ และจากการสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหาได้รับการสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการกระทำความผิดและหลบหนีในพื้นที่กทม. มาตั้งแต่ พ.ศ. 2556 ต่อเนื่องมาจนกระทั่งถูกจับกุม ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง หากผู้เสียหายคนใดที่ประสบเหตุถูกวิ่งราวในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่ สน.พระราชวัง และ สน. บางรัก และจะติดตามผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีกรายตำรวจจะดำเนินการติดตามตัวต่อไป



ผู้สื่อข่าว:สมจิตร พูลสูข

ข่าวทั้งหมด

X