เว็บไซต์สำนักข่าวอนาโดลู ของตุรกี รายงานว่า ประธานาธิบดีเรเซ็ป ทายยิป แอร์โดกันแห่งตุรกี เรียกร้องให้พลเมืองตุรกีมีความหนักแน่น ไม่ขุ่นเคืองง่ายๆไปกับการเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของสื่อมวลชนตุรกี เนื่องจากไม่มีการอ้างอิงแหล่งข่าวหรือที่มาที่ไปของข่าวอย่างชัดเจน ระบุว่า การก่อเหตุโจมตีสถานกุงสุลต่างชาติไม่ช่วยแก้ปัญหามุสลิมอุยกูร์และไม่สอดคล้องกับทัศคติการต้อนรับผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นของชาวตุรกี ก่อนหน้านี้เกิดเหตุประท้วงต่อต้านชาวจีนและการโจมตีสถานกงสุลไทยในนครอิสตันบูลเมื่อวันพุธ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคลิปวีดีโอและรายงานว่ารัฐบาลท้องถิ่นในเขตปกครองซินเจียงอุยกูร์ของจีนสั่งห้ามไม่ให้ชาวอุยกูร์ถือศีลอดในเดือนรอมฏอนของชาวมุสลิม
ขณะเดียวกันการที่รัฐบาลไทยผลักดันชาวอุยกูร์ราว 109 คนกลับจีนเมื่อวันก่อน ประกอบมีข่าวว่าคนเหล่านั้นอาจจะถูกประหารชีวิตในจีน เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายจากสาธารณะชนในตุรกี ข้อครหาที่ว่า มีการปราบปรามชนกลุ่มน้อยมุสลิมก่อให้เกิดกระแสความรู้สึกที่ค่อนข้างรุนแรงในตุรกี มีการประท้วงของคนกลุ่มเล็กๆ ทั้งๆที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เขาพูดเรื่องนี้กับคณะทูตต่างชาติในโอกาสการเลี้ยงอาหารค่ำหรืออิฟตาร์ที่ทำเนียบรัฐบาลตุรกีในกรุงอังการาในโอกาสสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมฏอนของชาวมุสลิมเมื่อค่ำวานนี้
ผู้นำตุรกีเพิ่มเติมว่ารัฐบาลตุรกีจะยืนหยัดเคียงชาวอุยกูร์เชี้อสายเติร์กในประเทศจีน เพิ่มเติมว่ารัฐบาลตุรกีจะหยิบยกปัญหานี้ขึ้นหารือกับผู้นำระดับสูงของจีนอย่างต่อเนื่อง เขาพูดเป็นนัยว่าอาจจะไปเยือนจีนปลายเดือนนี้
นายกรัฐมนตรีอาห์เหม็ด ดาวูโตกลูของตุรกีได้ประณามเหตุโจมตีสถานกงสุลไทยเมื่อวันพุธ ระบุว่าแม้ว่าจะเกิดปัญหาพิพาทก็ไม่ควรจะแสดงออกด้วยการโจมตีสถานกงสุลต่างชาติ ระบุว่าเอกอัครราชทูต คณะทูตและนักท่องเที่ยวต่างชาติถือว่า เป็นผู้มาเยือนที่ควรให้การดูแลอย่างอบอุ่นจากตุรกี
ด้านสมาคมสิทธิมนุษยชนผู้อพยพต่างชาติในนครอิสตันบูล ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือชาวอุยกูร์อีก 50 คนที่ยังถูกควบคุมในประเทศไทย