ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++วันนี้ ยังคงต้องติดตามปัญหา ส่งกลับชาวอุยกูร์ให้กับจีน นับว่าไทยถูกลูกหลง หลังชาวตุรกีไม่พอใจจีนมานานพอควรแล้ว เพราะจีนมีนโยบายแข็งกร้าวต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ ในปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน เมื่อชาวอุยกูร์บางส่วนมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับชาวตุรกี ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อเมริกาได้ปรับสถานะมาเลเซียกลับขึ้นไปยัง "เทียร์ 2" แต่ยังแขวนไทยไว้ที่ "เทียร์ 3" เหมือนเดิม แต่สื่อต่างประเทศคาดว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ จะเผยแพร่รายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์ประจำปี 2015รวมถึงผลประเมินความพยายามของแต่ละประเทศในการจัดการปัญหาค้ามนุษย์ ภายในสัปดาห์หน้า
+++นายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงกรณีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเตรียมจะเผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศต่างๆในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ มั่นใจว่าประเทศไทยได้พยายามแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังมาตลอด ไม่ได้ทำเพราะตอบโจทย์การบ้านของหน่วยงานใด แต่ทำเพื่อความถูกต้องและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้นไทยควรมั่นใจที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป ไม่ว่าใครจะจัดลำดับอย่างไร ถือเป็นวิธีการของประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาจากหลังเดือน มี.ค. พบว่าไทยได้ดำเนินการจับกุมและแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ ซึ่งตรงกันข้ามกับในช่วงก่อนเดือน มี.ค.ที่อาจถูกมองว่าไม่มีความคืบหน้าเพียงพอในการแก้ปัญหา
+++ปัญหาอุยกูร์ไม่ต่างอะไรจากโรฮิงญา เริ่มจากมีนายหน้าชาวบังคลาเทศเข้าไปติดต่อชาวอุยกูร์ที่ต้องการอพยพไปยังตุรกี เมื่อตกลงได้จะพาขึ้นเครื่องบินจากซินเจียงเดินทางมายัง 12 ปันนา หลังจากนั้นจะเดินทางต่อทางรถยนต์เข้าไทยใน 3 เส้นทาง คือจาก 12 ปันนา ผ่านเมียนมาร์เข้าไทยที่แม่สาย และเชียงแสน จ.เชียงราย เส้นทางที่ 2 จาก 12 ปันนา ใช้รถยนต์เข้าหลวงพระบาง หรือเวียงจันทร์ เข้าไทยที่ จ.มุกดาหาร และ จ.หนองคาย เส้นทางที่ 3 จาก 12 ปันนา ใช้รถยนต์ไปเวียดนาม วกเข้ากัมพูชา เข้าไทยที่ อ.คลองลึก จ.สระแก้ว และ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่ภายในสถานทูตตุรกีประจำประเทศไทย ซึ่งมีการโยกย้ายไปประจำที่มาเลเซีย เครือข่ายนำพาชาวอุยกูร์จึงเปลี่ยนเส้นทาง โดยใช้วิธีการนั่งเครื่องบินจากซินเจียงไปลงที่เวียดนาม ใช้รถยนต์เข้ากัมพูชา ผ่านเข้าประเทศไทยที่ อ.คลองลึก จ.สระแก้ว และ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เดินทางโดยรถไฟมายังหัวลำโพงต่อไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผ่านไปยัง อ.สะเดา เข้ามาเลเซีย หรือใช้รถตู้ไปยัง อ.หาดใหญ่ เข้าไปยัง อ.สะเดา เข้ามาเลเซีย ก่อนได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางไปยังตุรกี
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่าไปมองที่ความเสียหาย สิ่งสำคัญอยากให้ดูที่ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และคนไทย รวมถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยัน ไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของใคร แต่เป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง และเราปฏิบัติตามพันธสัญญาระหว่างประเทศ ส่วนการส่งตัวมีกระบวนการตรวจสอบสัญชาติอยู่แล้ว ต้องแยกส่งให้ชัดเจน มิฉะนั้นต่อไปจะเป็นปัญหา
+++ นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวว่าขณะนี้มีแรงงานไทยอยู่ในตุรกีทั้งหมด 459 คนโดยในจำนวนนี้เดินทางผ่าน บริษัทจัดหางาน 242 คน และเดินทางไปด้วยตนเอง 217 คน ขณะนี้แรงงานทุกคนปลอดภัย โดยได้ประสานกับบริษัทจัดส่งแรงงาน รวมทั้งแจ้งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยดูแลแรงงานไทยแล้ว และเตือนให้ระมัดระวังอย่าไปเข้าในพื้นที่ชุมนุม
++++ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เชิญนักการเมืองร่วมออกรายการโทรทัศน์เพื่อสร้างบรรยากาศของความปรองดอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นแนวคิดของคณะทำงานในการให้แต่ละฝ่ายเข้ามาพูดคุย รายการดังกล่าวต้องการให้สื่อมวลชนกรุณาฟังให้จบว่าที่ให้มาพูดกันนั้นมีใครบ้าง 1.อดีตรัฐบาล 2.สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 3.บุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ ที่ไม่ใช่รัฐบาล โดยให้ฟังเขาแสดงปัญญาออกมาว่า ถูกหรือผิด
+++แหล่งข่าวแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ทาง คสช.มีแผนจะเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคนในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปออกรายการโทรทัศน์เดินหน้าปฏิรูปว่า ในส่วนของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ เห็นว่าหากไป โอกาสเสียจะมีมากกว่าโอกาสได้ ไม่น่าไป เพราะถ้าไปก็คือไปเสีย เพราะพิธีกรคงจะจี้ถามในประเด็นสำคัญๆ ภาพก็จะเหมือนโดนต้อนให้เข้ามุม หรืออาจจะเหมือนคนโดนซักฟอก นอกจากนี้ หากโดนจี้เรื่องโครงการรับจำนำข้าวก็จะแย่ เพราะขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีคดีอยู่ ถ้าพูดอะไรไปก็อาจจะมีผลต่อทางคดีด้วย
+++ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขณะนี้รอหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการอยู่ แต่ยืนยันว่ายินดีให้ความร่วมมือไปร่วมรายการ ส่วนรูปแบบรายการจะเป็นอย่างไรนั้น ขณะนี้ไม่ทราบ
+++กรณี14 นักศึกษา ที่ยังคงแถลงเคลื่อนไหวต่อไป พร้อมรับว่า ยังถูกติดตามตั้ว พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการ คสช. ให้สัมภาษณ์กรณีที่นักวิชาการอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไปติดตามความเคลื่อนไหวที่บ้านว่า ที่นักวิชาการบอกว่าเจ้าหน้าที่รัฐมักเดินทางไปที่บ้านพักนักวิชาการ ถือเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ และการแสดงออกทางความคิดเห็น ถือเป็นการคุกคามนั้น คิดว่าถ้าบอกเช่นนี้ขอให้อัดคลิปมาเลยว่าใครข่มขู่คุกคามเพื่อเป็นหลักฐานให้ชัดเจนไปเลย ไม่อยากให้พูดลอยๆ แต่อยากให้หาหลักฐานออกมาแสดงให้เห็นเลยว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีพฤติกรรมตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ จะเรียกมาสอบสวนให้ แต่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้มีพฤติกรรมเช่นนั้น
+++ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีการปรับแก้บทบัญญัติร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 โดยวันนี้ได้เข้าสู่การพิจารณาในหมวดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาตรา 171 ทั้งนี้มาตรา 171 ได้มีการปรับแก้ไขถ้อยคำเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี จากเดิมใช้คำว่าติดต่อกันเกินกว่าสองวาระมิได้ มาเป็นติดต่อกันเกินกว่าแปดปีมิได้ โดยมีเหตุผลว่า หากเขียนคำว่าวาระอาจทำให้เกิดการตีความในความหมายของคำว่าวาระที่ได้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและนำไปโยงกับวาระหรืออายุของสภา
+++ส่วนประเด็นที่มาของนายกรัฐมนตรีนั้น ที่ประชุมได้นำมาตรา 172 และ 173 มารวมกัน และปรับถ้อยคำที่ว่าด้วยบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ส.ส.ให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยต้องได้รับเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ส่วนในกรณีที่มีข้อกำหนดให้เมื่อพ้น 30 วัน นับแต่มีการเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่มีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบตามเกณฑ์ ได้เพิ่มบทบัญญัติให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนำชื่อของผู้ได้รับคะแนนเสียงข้างมากซึ่งต้องเป็น ส.ส.เท่านั้น ทูลเกล้าฯแต่งตั้ง
ส่วนมาตรา 174 ว่าด้วยให้นายกรัฐมนตรีนำชื่อผู้ซึ่งจะเป็นรัฐมนตรีส่งให้ประธานวุฒิสภาเพื่อจัดประชุมวุฒิสภาเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ที่ประชุม กมธ.ยกร่างฯได้ตัดออกทั้งมาตรา
++จับได้แล้ว มือโพสต์ข่าว นายกฯ โอนเงินไปสิงคโปร์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จะแถลงข่าวเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารเข้าจับกุมได้ที่ จ.ปทุมธานี เป็นผู้หญิงอายุ 45 ปี และเป็นแนวร่วม นปช. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้ร่วมกันจับกุมนางรินดา ปฤชาบุตร หรือหลิน อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง ภูมิลำเนาอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทั้งนี้ การสืบสวนพบว่านางรินดาเป็นแนวร่วมการเมืองของกลุ่มฝั่งตรงข้ามรัฐบาล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ความผิดตามมาตรา 14(1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ