ในวันนี้ โครงการ "Make a wish 1 วัน 1 ปรารถนา" ของกรุงเทพมหานคร พาคุณอำไพ ศราญรื่น อายุ 56 ปี ผู้พิการที่ต้องใช้รถวีลแชร์ในชีวิตประจำวันไปสานฝันท่องเที่ยว ด้วยแท็กซี่สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ
แต่ก่อนที่จะออกเดินทางจากบ้านย่านติวานนท์ คุณอำไพเล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่อายุ 6 ขวบก็ป่วย จากออกหัด แม่จึงพาไปฉีดยาที่สุขศาลาในจังหวัดพระนครอยุธยา จากนั้นก็พบว่าช่วงล่างของตนเองไม่สามารถขยับได้ คาดว่าเป็นเพราะการฉีดยาเข้าที่สะโพกแล้วไปถูกเส้นประสาท ทำให้ต้องใช้รถเข็นและมีแม่ที่คอยดูแล นอกจากนี้ตัวเองยังมีอาการนิ้วล็อค และเป็นพังผืดที่มือด้วย โดยปัจจุบันอาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านเช่าย่านติวานนท์ที่ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 2,500 บาท ขณะที่แม่เสียไปเมือ 4 ปีก่อนและไม่มีญาติพี่น้อง โดยขณะนี้รับจ้างเย็บผ้าปูที่นอนเย็บกระเป๋าและผ้า ส่งโรงงานที่สนับสนุนคนพิการย่านปากเกร็ด รายได้ก็ไม่ถือว่าพอต่อการดำรงชีพ แต่อาศัยประหยัดค่าใช้จ่ายจึงพออยู่ได้ ส่วนการดำรงชีวิตประจำวัน งานบ้านและการช่วยเหลือตัวเองต่างๆสามารถทำได้ทั้งหมด เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ส่วนการกินข้าวหรือซื้อของใช้ก็จะเข็นรถวีลแชร์ไปหน้าปากซอย กินข้าวร้านประจำและเข็นรถไปซื้อของที่เซเว่นหน้าปากซอยหรือบางครั้งก็มีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะไม่มีคนพาไปทั้งการเดินทางก็ลำบาก ที่จำเป็นจะต้องเดินทางเป็นระยะก็คือการไปโรงพยาบาลปากเกร็ด ซึ่งจะขอให้เพื่อนบ้านช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้
ทั้งนี้ ยอมรับว่าในการเรียกรถรับจ้าง จะถูกปฎิเสธบ่อยมากบางครั้งเรียกเป็นสิบคันก็ยังไม่ได้ไป หลายครั้งเห็นว่ารถเปิดไฟว่างมา แต่พอเห็นว่าเป็นคนพิการ คนขับจะปิดไฟเพื่อปฏิเสธไม่จอดรถก็มี
และนอกจากการใช้บริการรถแท็กซี่แล้วตัวเองก็ยังใช้รถจักรยานยนต์เมื่อจะไปไหว้พระ โดยจะซ้อนท้ายรถไปจนถึงอุโบสถวัดและขยับตัวขึ้นไปไหว้พระเอง สำหรับกิจกรรม Make a wish นี้ได้ยินมาจากสมาคมผู้พิการที่ตัวเองเข้าร่วมประชุม จึงลองสมัครมาและก็ไม่เคยขึ้นรถแท็กซี่ของกรุงเทพมหานครและไม่เคยไปวัดโพธิ์มาก่อนด้วย จึงตั้งใจจะไปทำสังฆทานและนวดแผนไทย
วันนี้นอกจากจะร่วมกิจกรรม Make a wish แล้วยังเป็นวันเกิดคุณ อำไพด้วยซึ่งคุณ อำไพ เล่าว่าเมื่อเช้าก็ได้ทำบุญแล้ว เพื่อสร้างสิริมงคลกับตัวเอง
...ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร