เมืองไทยฯ(1):นายกรัฐมนตรีประชุมครม.สัญจร/เกษตรร่วมกับมหาดไทยสำรวจความต้องการแก้ภัยแล้ง/ป.ป.ช.หารือกรณีจ่ายเงินเยียวยา

30 มิถุนายน 2558, 07:30น.


เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางไปเชียงใหม่เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ โดยกราบสักการะพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และเข้านมัสการพระธรรมเสนาบดี (ธงชัย สุวณฺณสิริ ป.ธ.7) รองเจ้าคณะภาค 7 ซึ่งให้พรนายกฯว่า ขอให้นายกฯและ ครม.บริหารประเทศให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ และนำพาประเทศชาติให้มีแต่ความสงบสุข ทั้งนี้นายกฯกล่าวว่า ต้องการให้คนไทยรักกัน ให้เกิดความสงบสุขทั่วประเทศ จึงขอให้ช่วยกันสวดมนต์อธิษฐานเพื่อให้คนไทยรักกันให้มากๆ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในประเทศไทย จากนั้นนายกฯพร้อมคณะได้เวียนเทียนรอบ พระธาตุดอยสุเทพฯจำนวน 3 รอบ



จากนั้นในการไปร่วมงานแสดงสินค้า พืชผัก ผลไม้ ของดีเมืองเหนือที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวกับผู้ที่มารอต้อนรับว่า ขอให้เลิกทะเลาะกัน อย่าให้ใครมาชี้นำยุยงปลุกปั่น เราต้องเดินหน้าประเทศโดยการกำหนดประเทศด้วยตัวเอง



โดยในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร โดยจะเน้นการแก้ปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค เร่งขุดบ่อบาดาลช่วยผู้ประสบภัยแล้ง  โดยยืนยันว่าหากมีฝนตกลงมาก็จะยุติการขุดเจาะบ่อบาดาล เพราะน้ำใต้ดินเป็นน้ำที่หายาก



ด้านนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าที่ประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจแนวทางการจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง มอบให้กรมชลประทานและกรมส่งเสริมการเกษตร สำรวจพื้นที่ทั้งในส่วนที่ปลูกข้าวไปแล้วและพื้นที่ยังไม่เพาะปลูก ว่ามีสภาพอย่างไร ระบบการส่งน้ำไปถึงหรือไม่โดยต้องรวบรวมให้เสร็จภายในวันนี้ โดยปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯมีแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้ทั้งในช่วงที่ยังไม่ได้เพาะปลูกและหลังการเพาะปลูก กรมชลประทานมีอาคารและระบบส่งน้ำหลายแห่ง ที่ต้องปรับปรุง จึงเหมาะสมที่จะจ้างงานในช่วงนี้เพื่อรอรับฝนตกอีกครั้งในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะนี้ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพน้ำแห้งขอดอยู่ในขั้นวิกฤติมาก เมื่อเทียบกับฝั่งตะวันตก แต่คาดว่าอีก 10 วันข้างหน้าจะมีฝนตกลงมาบ้าง



กระทรวงเกษตรฯ จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ตั้งศูนย์ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล  ตรวจสอบพื้นที่ที่มีปัญหาและสำรวจความต้องการของเกษตรกร ซึ่งจะมีการนำเสนอครม.พิจารณาในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ต่อไป



อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 10 คน ชุมนุมที่บริเวณเชิงสะพานนครพิงค์ อ.เมือง เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา 14 คนกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ถูกจับกุม กับมีนักศึกษา 2 คนถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนและลงบันทึกประจำวัน โดยไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา



ด้านศาลทหารกรุงเทพ อัยการศาลทหาร นัดสั่งฟ้องนายนัชชชา กองอุดม นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผู้ถูกออกหมายจับคดีขัดขืนประกาศ คสช.ฉบับที่ 7/2557 ฝ่าฝืนห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ในกรณีชุมนุมหน้าหอศิลป์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา และนายชาติชาย แกดำ อดีตพิธีกร เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่มารายงานตัวหลังครบกำหนด 7 วัน ที่ศาลอนุมัติฝากขัง จากนั้นศาลทหารอนุญาตให้ประกันตัวนายนัชชชากับนายชาติชาย โดยมีเงื่อนไขคือห้ามร่วมชุมนุมทางการเมืองและยุยงปลุกปั่นให้คนอื่นใดร่วมชุมนุมไม่ว่าจะกระทำด้วยวิธีใดทั้งทางตรงและทางอ้อม หากผิดเงื่อนไขสัญญาประกันจะใช้ดุลพินิจสั่งเพิกถอนประกัน



ขณะที่นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ หรือกลุ่มดาวดินและนักศึกษาที่ทำกิจกรรมครบรอบ 1 ปีรัฐประหารรวม 14 คน ซึ่งมีผู้เข้าเยี่ยมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยตามกฎจะเยี่ยมได้เพียงวันละ 1 รอบ และที่ด้านหน้าเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับผู้เข้าเยี่ยมห้ามการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองโดยเด็ดขาด



ส่วนนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่มีการแสดงความเห็นทางการเมืองหลายครั้ง ทำให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เชิญตัวมาปรับทัศนคติที่กองทัพภาคที่ 1 ในวันนี้



เมื่อวานนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรกและสอบคำให้การในคดีที่นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 21 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐหรือฮั้วประมูล พ.ศ.2542 มาตรา 4, 9, 10 และ 12 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และ 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 123 และ 123/1 พร้อมทั้งขอให้สั่งปรับจำเลยทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 35,274,611,007 บาท กรณีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมขอยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างละเอียด โดยขอใช้ระยะเวลาประมาณ 60-120 วัน เนื่องจากจำเลยเพิ่งได้รับคำฟ้องของอัยการโจทก์และเอกสารหลักฐานมีเป็นจำนวนมาก ขณะที่จำเลยบางรายได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลย ซึ่งศาลเห็นว่าหากมีเหตุจำเป็นให้ขออนุญาตเป็นครั้งคราวไป



ส่วนพ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตผู้ช่วยเลขานุการและอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่ 3 และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ไม่ได้เดินทางมาที่ศาล มีเหตุสงสัยว่าจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับ เพื่อมาฟังการพิจารณาคดี พร้อมทั้งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว ทั้งให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายนิมนต์ รักดี จำเลยที่ 15 เนื่องจากพิจารณาหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นโฉนดที่ดินทางสาธารณะ ไม่น่าเชื่อถือ จึงสั่งถอนประกัน และให้ออกหมายขังเพื่อส่งตัวควบคุมที่เรือนจำ เว้นแต่จำเลยจะมีหลักทรัพย์ใหม่มายื่น



นอกจากนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยังมีคำสั่งยกเลิกนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 21 และ 28 กรกฎาคมนี้ ในคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีไม่ระงับยับยั้งโครงการทุจริตรับจำนำข้าว เนื่องจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง เป็นวันที่ 31 สิงหาคมนี้เวลา 09.30 น.



ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) มอบอำนาจให้ทนายความเข้ายื่นหนังสือคัดค้านคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองนั้น จะนำคำร้องเข้าหารือในที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. วันนี้



และในวันนี้ยังครบกำหนดระยะเวลาที่อดีต ครม.รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ทั้ง 34 คน ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาจาก ป.ป.ช. ซึ่งหากวันนี้ยังไม่มา ป.ป.ช.จะส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบทางไปรษณีย์ต่อไป จากนั้นภายใน 15 วัน จะต้องมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช.ต่อไป โดยสามารถขอขยายเวลาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ 2 ครั้ง ถ้าไม่มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาถือว่าไม่ติดใจที่จะแก้ข้อกล่าวหา คาดว่าภายในเดือนกรกฎาคม คณะอนุกรรมการไต่สวนจะสรุปข้อเท็จจริงในคดีทั้งหมดส่งให้ที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาลงมติได้

ข่าวทั้งหมด

X