ตามที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) สำราญราษฎร์นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้น รถยนต์ของน.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ อายุ 29 ปี ทนายความจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน และเป็นหนึ่งในทีมทนายความของนักศึกษาทั้ง 14 คนซึ่งถูกจับกุมไปเมื่อเย็นวันที่ 26 มิถุนายนนี้ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบนั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นรถที่จอดอยู่บริเวณศาลทหาร ถ.หลักเมืองพบวัตถุพยานสำคัญที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น ซึ่งรายละเอียดต่างๆ จะอยู่ในสำนวน หากสามารถระบุตัวตนได้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนก็จะมีการออกหมายจับและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมระบุด้วยว่าคดีนี้ยังไม่มีผู้อ้างตัวเป็นทนายความให้นักศึกษาทั้ง 14 คน อย่างเป็นทางการ และการที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นนั้น เป็นการดำเนินการไปตามขั้นตอนและยืนยันว่าสามารถกระทำได้ เนื่องจากปกติการตรวจค้นยานพาหนะสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น แต่กรณีนี้ตำรวจได้มีการขอหมายค้นแล้ว และเป็นไปตามที่มีผู้แจ้งเบาะแสว่าภายในรถมีหลักฐานเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกับนักศึกษา 14 คน
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยด้วยว่า ในการจัดกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทางกองทัพจะเป็นผู้พิจารณา พร้อมยืนยันว่าไม่ฝักใฝ่การเมืองเพียงฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง เพราะตำรวจมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนประเด็นที่มีการโต้แย้งว่าพลเรือนไม่ควรขึ้นศาลทหารนั้น ในกรณีนี้มีระบุไว้ชัดเจนอยู่ในกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ นางสาวศิริกาญจน์ เปิดเผยว่า มีตำรวจขอตรวจค้นภายในรถเพื่อต้องการหาหลักฐานเกี่ยวกับคดี เพราะในรถมีโทรศัพท์ของนักศึกษาที่ถูกจับกุม แต่ไม่อนุญาตเพราะไม่มีหมายค้น รวมทั้งตนในฐานะทนายความต้องรักษาสิทธิและสมบัติของลูกความ จากนั้นพนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์นำหมายค้นมาขอตรวจค้นรถตนอีกครั้ง พบโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ซึ่งเป็นของนักศึกษาที่ฝากไว้ จึงตรวจยึดไปตรวจสอบ
สำหรับโทรศัพท์ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะนำส่งพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบในบ่ายวันพรุ่งนี้
..ผสข.สมจิตร์ พูลสุข