ศาลรัฐธรรมนูญอินโดนีเซีย สั่งยกคำร้อง-ไม่พบหลักฐานทุจริต เลือกตั้งประธานาธิบดี

          สำนักข่าวอันตาราของทางการอินโดนีเซียรายงานในวันนี้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซีย มีคำพิพากษาให้ยกคำร้องในคดีที่ผู้ร้องทั้งสองคน นายอานีส บาสวีดาน และนายกันจาร์ ปราโนโว สองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่พ่ายแพ้นายปราโบโว ซูเบียนโต อดีตรัฐมนตรีกลาโหมในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2567 เป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาล กล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้งผู้ถูกร้อง จัดการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เอื้อประโยชน์ให้นายปราโบโวชนะเลือกตั้ง

          ศาลระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดการเลือกตั้งตามอำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งไม่ปรากฏหลักฐานอย่างชัดแจ้งว่า มีการละเมิดจริยธรรมร้ายแรง หรือมีอคติ เลือกที่รักมักที่ชัง เช่น แก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้งในลักษณะที่สร้างความไม่เป็นธรรมแก่ผู้สมัครคนหนึ่งคนใด

          นอกจากนี้ ศาลรับรองว่า นายกีบราน ราคาบูมิง รากา อายุ 36 ปี (บุตรชายของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำคนปัจจุบัน)ที่ลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีในทีมของนายปราโบโว มีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะลงสมัครเลือกตั้ง พร้อมรับรองให้นายปราโบโว ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี

          ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินโดนีเซียประกาศผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ว่า นายปราโบโว ชนะด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 58.59 ส่วนนายอานีส และนายกันจาร์ คว้าอันดับที่ 2 และอันดับที่ 3 ด้วยคะแนนร้อยละ 25 และร้อยละ 16 ตามลำดับ แต่นายอานีสและนายกันจาร์ ปราโนโว ไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง นำคดีทุจริตเลือกตั้งมาฟ้องต่อศาล พร้อมโต้แย้งเรื่องคุณสมบัติการลงสมัครเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดีของนายกีบราน ว่ามีอายุไม่ถึงเกณฑ์อายุขั้นต่ำที่จะลงเลือกตั้งคือ 40 ปี พร้อมขอให้ศาลมีคำพิพากษาตัดสิทธิ์ผู้ชนะและตัดสิทธิ์ทางการเมืองของทั้งสองคน

          เว็บไซต์ข่าวจาการ์ตา โกลบของอินโดนีเซีย รายงานว่า  ทั้งผู้ร้องคือ นายอานีสและนายกันจาร์ และผู้ถูกร้องคือ คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินโดนีเซีย ต่างเข้าฟังการอ่านคำพิพากษา เช่นเดียวกับนายปราโบโวที่เข้ามาฟังการอ่านคำพิพากษาโดยสมัครใจ ขณะเดียวกัน ทางการอินโดนีเซียได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจหลายพันนายเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยในสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งห่างไม่กี่เมตรจากทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา

 #ศาลอินโดนีเซีย

 #ตัดสินคดีทุจริตเลือกตั้ง