นายกฯ กลับถึงไทยหลังประชุม UNGA เผยมีบริษัทยักษ์ใหญ่สนใจลงทุนในไทยจำนวนมาก

24 กันยายน 2566, 11:13น.


            วันนี้ (24 ก.ย.66)  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) มาถึงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า จากการเดินทาง 4 วัน ต้องขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)  และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ช่วยทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง



           โดยในการประชุมครั้งนี้ ได้พบปะกับผู้นำต่างประเทศหลายประเทศ  เข้าร่วมการประชุมและได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมทั้งสิ้น 5 ครั้ง พบผู้นำองค์กรระหว่างประเทศสำคัญสององค์กร และได้พบผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ระหว่างประเทศหลายบริษัท เช่น เทสลา , กูเกิล, ไมโครซอฟท์ , ซิตี้แบงค์ , เจพี มอร์แกน , เอสเต้ ลอเดอร์ เป็นต้น โดยบริษัทเหล่านี้สนใจการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมให้การสนับสนุนการลงทุนในไทยมากขึ้น โดยหลักๆแบ่งเป็นสองภาคส่วนคือบริษัทเทคโนโลยี และบริษัทการเงิน





         นอกจากนี้ ยังได้หารือกับผู้นำตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กที่มีศักยภาพมาก ซึ่งนายกฯ แปลกใจว่า บริษัทดี ๆ หลายแห่งในไทยไม่เคยไปจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเลย แต่ตอนนี้เห็นลู่ทางแล้ว และพยายามจะผลักดันให้ภายในปีนี้ มีอย่างน้อยหนึ่งบริษัทของไทยที่ได้ไปลงทุน



            ส่วนการหารือกับผู้บริหาร FIFA และพูดคุยถึงการจะให้ไทย เป็นเจ้าภาพในการจัดฟุตบอลโลกภายในปี 2032 หรือในอีก 9 ปีข้างหน้า  และขอให้สนับสนุน ฟุตบอลรากหญ้าของไทยโดยจากเดิมที่สนับสนุนปีละ 250,000 บาท เป็น 2 ล้านบาทซึ่งค่อนข้างเป็นเงินจำนวนที่เยอะพอสมควร



             นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงภาพรวมการประชุมว่า  ในปีนี้สหประชาชาติมีหัวข้อหลักที่จะให้ทุกประเทศร่วมกันแก้ปัญหาความแตกแยก  ช่วยกันผลักดันตัวชี้วัด SDG 17 ข้อ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้ไขปัญหาด้วยประเทศเดียว  ทั่วทั้งโลกต้องให้ความร่วมมือสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ในส่วนของภาวะโลกร้อนซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ระบุไปแล้วว่าไม่ใช่เพียงแค่โลกร้อนแต่เป็นโลกเดือด เป็นเรื่องต้องให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับปัญหาสิทธิมนุษยชน  รวมถึงได้ร่วมประกาศจุดยืนของประเทศไทย ในฐานะประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข   จะยึดมั่น ผลักดัน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ  และน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงผ่านปรัชญาอารยเกษตร สะท้อนผ่านนโยบายที่อำนายความสะดวกประชาชนให้เลือกเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐบาลได้อย่างสมเกียรติ





            นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงภารกิจการเดินทางไปต่างประเทศครั้งต่อไป  คือ การเข้าร่วมการประชุมเอเปก (APEC)  ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา  ซึ่งได้นัดหมายกับหลายบริษัท รวมถึงเชื้อเชิญบริษัทในไทยที่ประสงค์จะเปิดประตูทางการค้าด้วย  โดยคณะผู้แทนรัฐบาลไทยจะเดินทางล่วงหน้าไปก่อน 2 วัน  เพื่อเปิดให้นักธุรกิจไทยไปพบปะกับบริษัทใหญ่ ๆ ของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้นอกจากบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ตนได้ไปพบปะแล้ว ยังมีบริษัทด้านการเงินที่มีความสำคัญ เพราะบริษัทต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในไทยก็ต้องการแรงสนับสนุนในด้านการเงิน  ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศ  แทบไม่มีความกังวลต่อการกลับมาสู่ประชาธิปไตยของประเทศไทย  แต่มองไปที่ความสะดวกในการมาทำธุรกิจมากกว่า  ซึ่งไทยก็พร้อมมาก สำหรับการเข้ามาลงทุนและรับฟังความคิดเห็น ส่วนใดที่ต้องแก้ไขในเรื่องข้อกฎหมายหรือระเบียบ ก็จะมาดูความเหมาะสม  โดยในการเดินทางไปประชุมเอเปกครั้งถัดไป ได้หารือกับเลขาฯ บีโอไอ ว่าอาจเชิญบริษัทที่มีขนาดกลางไปเสนอตัวกับต่างชาติ  เพื่อให้เกิดการลงทุนระหว่างกันทั้งสองฝ่าย เป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนทุกคน



#เศรษฐาทวีสิน



#นายกรัฐมนตรี



#ประชุมUNGA



 

ข่าวทั้งหมด

X