ทีมสอบสวน UN ชี้ กองทัพเมียนมาผิดอาชญากรรมสงครามรุนแรง-เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 2560

08 สิงหาคม 2566, 17:09น.


          เอเอฟพี รายงานว่า นายนิโคลัส คุมเจียน (Nicholas Koumjian) ประธานคณะผู้สอบสวนอิสระเพื่อพม่า (IIMM)ในสังกัดของสหประชาชาติ(UN)เปิดเผยรายงานประจำปีว่า คณะผู้สอบสวนของยูเอ็นได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างชัดเจน ซึ่งบ่งชี้ว่า กองทัพเมียนมาและกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรของกองทัพ ลงมือก่ออาชญากรรมสงครามในลักษณะซ้ำแล้วซ้ำอีก เกิดขึ้นบ่อยๆและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่น การสังหารหมู่ และการล่วงละเมิดทางเพศต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา การกักขัง การทรมาน และการจุดไฟเผาทำลายทั้งหมู่บ้านของชนกลุ่มน้อยมาตั้งแต่ปี 2560 จนกระทั่งต่อมาในปี 2564 เกิดการรัฐประหาร กองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เช่น การโจมตีทางอากาศโดยไม่แยกแยะระหว่างพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สู้รบ



          นายคุมเจียน กล่าวว่า ทุกครั้งที่ชาวเมียนมาเสียชีวิตเป็นเรื่องน่าเศร้ามากพออยู่แล้ว แต่ความเสียหายรุนแรงที่เกิดกับชุมชนต่างๆ เช่น การโจมตีทางอากาศยังย่านชุมชน และการจุดไฟเผาหมู่บ้าน เพื่อทำลายล้างทั้งหมู่บ้านเป็นเรื่องที่สร้างความตกตะลึงอย่างยิ่งสำหรับคณะผู้สอบสวนของยูเอ็น อีกทั้งพบหลักฐานเรื่องการทำร้ายชาวบ้านอย่างแพร่หลายและกระทำกันอย่างเป็นระบบโดยกองทัพเมียนมาและพันธมิตร



         ก่อนหน้านี้ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้ จัดตั้งทีมสอบสวน IIMM ในปี 2561 เพื่อรวบรวมหลักฐานต่างๆเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในเมียนมา โดยเฉพาะประเด็นที่เข้าข่ายก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรง พร้อมทั้งจัดทำเอกสารสำหรับใช้เป็นหลักฐานทางคดี ซึ่งคณะทำงาน IIMM ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวกว่า 700 คน รวบรวมหลักฐานต่างๆกว่า 23 ล้านชิ้น รวมถึงการสอบปากคำจากพยาน,เอกสาร,รูปภาพ,คลิปวิดีโอ,หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และภาพถ่ายทางดาวเทียม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศในนครเฮก เนเธอร์แลนด์ เพื่อให้พิจารณาพิพากษาลงโทษกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเมียนมาในอนาคต



          ที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบในเมียนมาเรื่อยมานับตั้งแต่มีการทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 มีการใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วง ทำให้เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมียนมาในหลายท้องที่ทั่วประเทศจวบจนถึงปัจจุบัน



#ยูเอ็น



#สอบเหตุรุนแรงเมียนมา

ข่าวทั้งหมด

X