นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยืนยันอาการป่วยโรคมะเร็งของตนเอง โดยระบุว่า ตนใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายต่างจากคนอื่น เพราะตนกินเหล้า และสูบบุหรี่ การที่ออกมาแฉ ออกมาพูด เนื่องจากคนอื่นไม่กล้า ซึ่งขอยืนยันว่าทำด้วยความเต็มใจ และทำด้วยความสุขของตัวเอง ซึ่งอยากบอกว่าตนเป็นคนที่ใช้ชีวิตทุกวันให้เหมือนวันสุดท้าย ดังนั้นอะไรที่ทำได้ ก็จะทำ อะไรที่มีความสุขทำได้ก็ทำ
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ไม่เลือกวิถีชีวิตที่ไม่กินตามที่หมอสั่ง เพราะกินแล้วก็ไม่หาย ซึ่งถ้าไม่หายก็ซ้ำไปเลยให้มีความสุข ในวันนี้เราต้องมีความสุข โดยมีกำหนดการที่หมอระบุไว้ว่าไม่เกิน 8 เดือน ลูกหลานไม่ต้องไปจัดงานให้สิ้นเปลือง เพราะได้บริจาคร่างกาย นอกจากนั้น ยังมองว่าเรื่องเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา ขออย่าไปคิดมากหรือกลัว
ก่อนหน้านี้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เปิดเผยว่า ชูวิทย์ ป่วยมะเร็งตับ หมอบอกเหลือเวลา 8 เดือน-ปีครึ่ง แต่ขอใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายด้วยความสุข ทำในสิ่งที่อยากทำ เชื่อ หลายคนคงดีใจ และคิดถึงในวันที่ไม่อยู่แล้ว เหมือนบางอย่างขาดหายไป แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน เตรียมฟ้องหมิ่นประมาทนายชูวิทย์ โดยมีการแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 7 ส.ค.นี้
สำหรับในวันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้นำเอกสารหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับการหลบเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่มีความเกี่ยวพันกับ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มอบให้แก่ นายลวรรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากรทำการตรวจสอบ โดยมี นายกิตติพล สิงห์ทน หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ รักษาราชการแทน เลขานุการกรม กรมสรรพากร เป็นตัวแทนรับเอกสารดังกล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากพฤติกรรมของ นายเศรษฐา เป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหลบเลี่ยงภาษี ตนยืนยันว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมกระทำผิด ไม่ใช่ผู้สนับสนุน มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการโอนการซื้อขายที่ดินต่อตารางวาให้มีความแตกต่างกัน โดยมีการคัดย่อตามรายชื่อ 12 คน 12 ฉบับ วางค่ามัดจำที่ดิน ร้อยละ 50 ร้อยละ 51 และร้อยละ 52 ในโฉนดแปลงเดียวกัน
ประเด็นสำคัญที่ตนต้องชี้แจง คือ เรื่องที่คนของพรรคเพื่อไทยออกมาโจมตีตนว่าเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา ตนอยากบอกว่าพรรคเพื่อไทยยังมีแคนดิเดตนายกฯ คนอื่นอีก คือ อิ๊งค์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กับนายชัยเกษม นิติสิริ ทำไมถึงนำ นายเศรษฐา ขึ้นมาเป็นนายกฯ หากนายเศรษฐาอ้างว่าไม่รู้เห็นกับการซื้อขายที่ดินดังกล่าว มีหน้าที่เซ็นอย่างเดียว ก็ขอให้ดูตัวอย่างของ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่รู้เห็นการจำนำข้าว และก็มีหน้าที่เซ็นเพียงอย่างเดียว สุดท้ายต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
ด้าน นายกิตติพล กล่าวว่า ทางกรมสรรพากรมีระเบียบขั้นตอนในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขั้นตอนต่างจากนี้จะนำเอกสารที่นายชูวิทย์มอบให้นั้นไปพิจารณาก่อน ยังไม่สามารถระบุในรายละเอียดได้ ฉะนั้นจะต้องขอพิจารณาเอกสารก่อนว่ามีความครบถ้วนหรือไม่ หากมีข้อสงสัยเจ้าหน้าที่อาจมีการเชิญตัวนายเศรษฐามาให้ข้อมูลได้ต่อไป
#ชูวิทย์ป่วย
#มะเร็งตับ