ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถไฟชนรถกระบะที่กำลังข้ามทางรถไฟที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยคนขับฝ่าสัญญาณเตือนหวูดของรถไฟ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ล่าสุด นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเบื้องต้น สั่งให้กองพนักงานสัมพันธ์และสวัสดิการ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ติดต่อให้ความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรมตามระเบียบของการรถไฟฯ กับครอบครัวผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต พร้อมกับแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย
ส่วนจุดเกิดเหตุนั้น เป็นทางลักผ่านที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 43/9 ใกล้กับที่หยุดรถคลองอุดมชลจร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่เพื่อจะลดอุบัติเหตุให้มากที่สุด วันนี้ การรถไฟฯ จึงติดตั้งสัญญาณเตือน ป้ายจราจร ไฟกะพริบ ป้ายข้อความเตือนทั้งสองด้าน มีเครื่องหมายจราจรครบถ้วน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่านจุดดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งสรุปจำนวนทางลักผ่านที่ผิดกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาปิดจุดทางลักผ่านต่างๆ หรือประสานหน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบถนนที่ตัดผ่านทางรถไฟ สนับสนุนงบประมาณในการติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ ซึ่งที่ผ่านมา หากการรถไฟฯ เข้าไปดำเนินการปิดทางลักผ่านต่างๆ ก็จะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ขอให้เปิดเส้นทางลักผ่านเพื่อใช้ในการสัญจร หรือลักลอบเปิดใช้ทางลักผ่านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากการรถไฟฯ
ปัจจุบันโครงข่ายทางรถไฟทั่วประเทศ มีทางผ่านเสมอระดับทางรถไฟและรถยนต์ จำนวน 2,697 แห่ง แบ่งเป็น ทางต่างระดับที่ได้รับอนุญาต 546 แห่ง (Overpass, Underpass, Box underpass, U-Turn, U-Turn,Box Underpass) ทางเสมอระดับที่ได้รับอนุญาต 1,458 แห่ง (เครื่องกั้นถนนอัตโนมัติ, มีพนักงานควบคุม, ป้ายจราจร/สัญญาณต่างๆ) และทางลักผ่าน 693 แห่ง (ติดตั้งเครื่องกั้นถนนฯ,ติดตั้งป้ายจราจรสัญญาณต่าง ๆ,ทางลอด,ทางที่ไม่ได้รับการติดตั้งป้ายจราจร/สัญญาณใดๆ) การรถไฟฯ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางผ่านเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 63 ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระหว่างรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้นผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้
ส่วนศพของผู้เสียชีวิต สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ให้ญาติไปยืนยันร่างและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น ก่อนจะไปลงบันทึกประจำวันและทำหนังสือส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ด้วยรถรักษาสภาพศพของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เบื้องต้น ระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตได้ทั้ง 8 ราย ขณะเกิดเหตุ กลุ่มผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ท้ายกระบะ ผู้เสียชีวิต 7 ราย มีลักษณะถูกแรงกระแทกจากรถไฟ ที่ชนเข้าด้านท้ายของรถกระบะ จนถูกเหวี่ยงออกจากรถมากระแทกพื้น ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ถูกรถไฟทับช่วงขาขาด และใบหน้าเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการชันสูตรประมาณ 1 วัน ก่อนจะให้ญาตินำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ในวันพรุ่งนี้
ด้านคุณฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสถานีวิทยุ จส.100ว่า คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย ให้การว่า เห็นว่ามีรถไฟมา คิดว่าจะข้ามไปพ้น ทำให้รถไฟ ชนด้านท้ายกระบะ ลักษณะจุดเกิดเหตุนี้เป็นทางลักผ่าน ซึ่งทางการรถไฟ ไม่ได้อนุญาตให้ใช้งาน การเปิดทางให้รถยนต์ผ่าน ต้องได้รับอนุญาต และมีผู้มีอำนาจในการพิจารณาหลายๆ หน่วยงานพิจารณา จึงจะทำทางผ่านได้ ทางลักผ่านนี้ จะไม่มีไม้กั้นอยู่แล้ว เมื่อปี 63 เลยจากจุดนี้ไปก็เคยเกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้ (เป็นเหตุรถบัส ชน รถไฟ เสียชีวิต19 ราย) การรถไฟ ก็เอาไฟไปเปลี่ยน และติดตั้งให้มีไฟเตือนชัดเจนแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ คนขับ คาดการณ์ไม่ถูกต้อง เรื่องความเร็วของรถไฟ ปัจจุบันรถไฟความเร็วสูง จะวิ่ง 120 กิโลเมตร ต่อ ชม. และรถไฟธรรมดา จะวิ่งอยู่ที่ 90 กม./ชม. ส่วนรถไฟบรรทุกสินค้า บรรทุกน้ำมัน จะวิ่งอยู่ที่ 70 กม./ชม. คนขับอาจจะคำนวนผิด เพราะรถไฟสมัยใหม่จะวิ่งเร็วกว่ารถไฟสมัยก่อน ดังนั้น ก็ควรจะต้องประกาศให้ทราบกันโดยทั่ว ในอนาคต ใครจะข้ามทางรถไฟนี้ จะต้องคำนวนให้ถูกต้องไว้ก่อนว่าควรจะใช้ความเร็วเท่าไหร่ ถ้ามีสัญญาณไฟ ให้หยุด ก็ไม่ควรจะขับรถผ่านไป ถ้ามีเครื่องกั้น ขณะที่ เครื่องกั้นตีลงมาแล้ว ก็ไม่ควรจะขับรถฝ่าเข้าไป โดยเฉพาะรถ จยย. อาจเกิดอุบัติเหตุได้ ลักษณะสัญญาณเตือน จะเป็นไฟกระพริบแดง ว่ามีรถไฟมา ระยะทาง 800 เมตร ควรหยุด ไม่แนะนำให้ขับผ่าน
ส่วนรถไฟขบวนนี้ เดินทางมาจากลาดกระบัง จะไปแหลมฉบัง มีทั้งหมด 32 ตู้ เคลื่อนตัวออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว ส่วนมาตรการ การช่วยเหลือ การรถไฟ ดูแลตามหลักมนุษยธรรม มากน้อยแค่ไหนก็ต้องแล้วแต่คณะกรรมการของการรถไฟ เจ้าหน้าที่ติดต่อญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้เรียบร้อยแล้ว
พ.ต.อ.สาธิต มิตรรักษ์ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ยืนยันว่า รถกระบะเดินทางมาทั้งหมด 13 คน เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 3 คน คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีคนกระโดดลงมาทัน 1 คน ทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน เดินทางมาจากจ.สมุทรปราการ จะไปหาปลา ที่หมู่บ้านเดโช จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพหาปลา คนขับ ชื่อ คุณทนงศักดิ์ บอกว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รถไฟ ขบวนที่ 833 จากจากศูนย์กระจายสินค้าลาดกระบัง เดินทางไปที่ท่าเรือแหลมฉบัง ลักษณะที่เกิดเหตุ เป็นเนินทำให้รถกระบะเร่งเครื่องข้ามทางรถไฟ อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ถูกรถไฟชนได้ ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเชิญพนักงานในรถไฟ 3 คน ไปให้ปากคำด้วย อยากให้ผู้ขับขี่ สังเกตป้ายที่การรถไฟทำให้ เช่น ป้ายหยุด ป้ายเตือน ให้ระมัดระวังให้มากๆ บางพื้นที่แสงสว่างก็น้อยมาก ขอให้คนขับระมัดระวังตัวเองเป็นหลัก ถ้าต้องใช้ทางลักผ่าน
#รถไฟชนกระบะ
#จังหวัดฉะเชิงเทรา
CR ขอบคุณภาพ เพจเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย